เมื่อรู้ว่ามาลินีรับเหว่ากับเฉลาเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่บอกทางบ้านลีนวัตร สมรกับวลัยอดเป็นกังวลไม่ได้ กลัวลีนวัตรจะมาโกรธเคืองมาลินี แต่มาลินีก็ยืนยันว่าเธออยากช่วยสองคนนี้จริงๆ อีกอย่างพวกเขา ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ถ้าลีนวัตรยอมเปิดใจบ้าง ทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี
แต่ยามนี้ แม่ปุยแทบจะกินข้าวเคล้าน้ำตา เสียใจที่ลูกสาวหนีหายไปกับผู้ชาย ลีนวัตรเองก็กลุ้ม นอนไม่หลับ ทั้งคืน งานการอะไรก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำ เมื่อมาลินีมาที่บ้าน แม่ปุยถึงกับน้ำตาร่วงเผาะ พูดไปสะอื้นไปอย่างน่าสงสาร
"เด็กมันไม่รักดีค่ะคุณ มันไปแล้ว มันไม่นึกถึงหัวอกแม่มันซักนิด มันเห็นผู้ชายสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น มันน่าเจ็บใจนัก ลูกหนอลูก"
"คุณป้าใจเย็นๆนะคะ เฉลาคงไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ วันสองวันแกก็คงจะกลับมาเอง"
แม่ปุยได้แต่ส่ายหน้าทำใจลำบาก ลีนวัตรที่นั่งฟังอยู่ มุมหนึ่ง ลุกขึ้นเดินออกไปเงียบๆ มาลินีมองตามแล้วหันมาปลอบใจแม่ปุย
"เฉลา เป็นเด็กดีนะคะคุณป้า อย่างน้อยหนูก็เชื่อว่าแกรู้ผิดชอบชั่วดี เพียงแต่แกรู้สึกว่าแกถูกบังคับจิตใจเกินไป แกกำลังพยายามหาทางออกให้ตัวแกเองอยู่เหมือนกันนะคะ คุณป้า เชื่อหนูนะคะ แกต้องปลอดภัยแล้วก็สบายดี คุณป้าอย่าห่วงแกเลยนะคะ"
จากนั้นมาลินีลงไป คุยกับลีนวัตรที่หน้าบ้าน อยากรู้ว่าเขาจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้ ลีนวัตรจะไปแจ้งความ หลังจากเฉลาหายไปครบยี่สิบสี่ชั่วโมง มาลินีตกใจขอร้องอย่าให้เป็นคดีความได้ไหม
"ยังไงผมก็ต้องเอาเรื่องไอ้เหว่าให้ถึงที่สุด มันล่อลวงน้องสาวผม"
"ใครจะไปรู้ เฉลาอาจจะยินยอมพร้อมใจไปกับนายเหว่าเองก็ได้นี่คะ"
"คุณอย่ามาทำเป็นรู้ดี"
"แต่ถ้าคุณฟังฉันตั้งแต่ต้น ไม่ใช้วิธีเผด็จการอย่างที่ทำมา เรื่องมันก็คงไม่เลวร้ายจนถึงขั้นนี้หรอกค่ะ"
ระหว่างนี้รถผู้ใหญ่โหมดแล่นเข้ามาขัดจังหวะ ปทุมลงจากรถแถเข้ามาหาลีนวัตรทันที
"พี่ ลีจ๋าพี่ลี ตกลงน้องสาวพี่ลีหนีตามผู้ชายไปจริงๆใช่ไหมจ๊ะ...ตายแล้ว...แล้วตรวจดูเงิน ทองของมีค่าดูรึยัง ว่าอะไรหายไปบ้าง ทุมว่าลงอีแบบนี้ไอ้ผู้ชายมันต้องนัดเอาไว้ล่วงหน้าให้ยกเค้าไปด้วยแหงๆ แสบจริงๆเลย ไอ้คนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคายังงี้ จับได้มันต้องยิงทิ้งอย่างเดียว น้องสาวพี่ลีนี่ก็โง้โง่ ไอ้บ้านั่นมันไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรด้วยหรอก มันฟันแล้วก็ทิ้ง สุดท้ายก็ท้องโย้ซมซานกลับมา เอาหลานมาให้พี่ลีเลี้ยง ไม่เชื่อก็คอยดูสิ"
"นี่คุณ...ในมื่อยังไม่รู้อะไรก็อย่าพูดมากนักเลย"
"ต๊าย...แล้วหล่อนคิดว่าหล่อนรู้อะไรบ้างยะ เสนอหน้ามาซะทุกเรื่อง เป็นญาติพี่น้องก็ไม่ใช่"
"ทุมเอ๊ยทุม พูดอะไรอย่างนั้น คุณเขาเป็นเพื่อนบ้านผู้ใหญ่ลีนะโว้ย" พ่อปรามลูกสาว
"ก็ อีแค่เพื่อนบ้าน จะมารู้ดีกว่าแฟนอย่างทุมได้ยังไง จริงไหมจ๊ะพี่ลีจ๋า" ปทุมฉอเลาะลีนวัตร หางตาเย้ยมาลินี ลีนวัตรเฉย ไม่ตอบหรือปฏิเสธ มาลินีหน้าตึง เดินจากมาอย่างขัดใจ
ผู้ใหญ่โหมดขึ้นไปปลุกปลอบแม่ปุย ที่เอาแต่ร้องไห้ ปวดใจกับการกระทำของลูกสาว แม่ปุยรับรู้ถึงความอาทรของผู้ใหญ่โหมด แต่มันก็ยังยากจะทำใจอยู่ดี
มาลินี กำชับพินที่เพิ่งรู้ว่าเหว่ากับเฉลาเข้ามาอยู่ในบ้าน มาลินีขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แม้แต่ประดิษฐ์ก็อย่าให้รู้เด็ดขาด แต่วันเดียวกันนี้ประดิษฐ์ก็ไปรู้จากปทุมที่เจอกันโดยบังเอิญว่าน้องสาวลี นวัตรหนีตามคนงานชื่อเหว่าไป
ตกตอนบ่าย ลีนวัตรมาขอยืมอุปกรณ์การเกษตรที่บ้านมาลินี วลัยกับสมรต้องช่วยกันพาเหว่าและเฉลาซ่อนตัวจ้าละหวั่น ขณะที่มาลินีก็คอยต้อนลีนวัตรไปมา จนกระทั่งลีนวัตรได้ของแล้วกลับออกมาโดยไม่เจอเหว่ากับเฉลา ทุกคนก็พากันโล่งอก
"เจอของที่ต้องการไหมคะ" มาลินีเดินตามมาถามลีนวัตร
"เจอครับ ได้ครบแล้ว คงต้องขอยืมคุณไปใช้ก่อน ของผมไอ้เหว่ามันมักง่าย หยิบไปใช้แล้วไม่เก็บคืนที่ หายไปไหนก็ไม่รู้"
"คุณพาลนายเหว่าเขามากกว่ามั้งคะ"
"ผมไม่เคยมีอคติกับใคร"
"ไม่จริงหรอกค่ะ ลึกๆแล้วคุณก็รู้สึกว่าคนการศึกษาน้อยอย่างนายเหว่าไม่ได้คู่ควรกับน้องสาวคุณ"
"ถ้าคุณเป็นผมคุณก็ต้องรู้สึกอย่างเดียวกัน"
"มันก็ไม่แน่หรอกค่ะ"
"ยัง ไงผู้ชายก็คือผู้นำครอบครัว...คุณมา ผมไม่เถียงหรอกว่าบางครอบครัวผู้หญิงก็ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำได้ แต่ไม่ใช่ ไอ้เหว่ากับน้องสาวผมแน่ ถ้ามันคิดว่ามันแน่จริงมันก็ต้องกลับมาทำให้ผมเห็นสิว่ามันจะปกป้องดูแลน้อง สาวผมได้ยังไง ไม่ใช่ใช้วิธีแบบนี้"
"ผู้ใหญ่ลีคะ หมายความว่า...ถ้านายเหว่าพาเฉลากลับบ้าน คุณจะหายโกรธแล้วก็ยกโทษให้ใช่ไหมคะ"
"ผมโกรธที่น้องสาวผมมันกล้าพูดว่าจะเลิกเรียนหนังสือ มันไม่มีความคิดแล้ว มันถึงได้เอาอนาคตตัวเองมาเป็นเรื่องต่อรอง"
"แต่คนเราจะอยู่ได้ยังไงคะ ถ้าไม่มีความรัก"
"คุณกับผมมองเรื่องนี้กันคนละด้านอย่างสิ้นเชิง"
"หมายความว่า เราต้องเป็นศัตรูกัน"
"คุณ มา...คุณรู้ดีว่าความรักอะไรก็ไม่สำคัญเท่ารักในศักดิ์ศรีของตัวเอง พวกผมเกิดมาเป็นชาวนา แล้วก็คงเป็นชาวนาไปจนกว่าจะตาย ชาวนาส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเหยื่อ ต้องเสียเปรียบหลายอย่างก็เพราะความไม่รู้ ผมไม่ได้อวดอ้างตัวเองว่าจะเป็นคนที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยผมก็กำลังพยายาม...แล้วคนที่คิดอย่างนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณนายวัน คุณยายของคุณเอง ท่านรู้ดีว่าการให้การศึกษา มันคืออาวุธอย่างเดียวที่ชาวนาอย่างพวกเราจะเอาไปใช้รบราฆ่าฟันกับการถูกเอา รัดเอาเปรียบได้ ผมหวังว่าคุณมาจะพอเข้าใจผมขึ้นมาบ้างนะครับ"
ลีนวัตร เดินจากไป มาลินีอื้ออึงเมื่อได้ยินได้ฟังความในใจของเขา เธอเข้าใจเขาขึ้นมามากทีเดียว...ครู่ต่อมา เฉลากับเหว่าก็มานั่งหน้าจ๋อยฟังมาลินีถ่ายทอดคำพูดของลีนวัตร โดยมีวลัย สมร และพินร่วมฟังอยู่ด้วย วลัยกับสมรเห็นตรงกันว่าลีนวัตรมีเหตุผลที่โกรธเฉลากับเหว่า ตอนแรกพวกเธอคิดว่าเขาแค่หน้าบางอับอายผู้คน
"เหลา...ยิ่งได้ฟังพี่ ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกระจอกสิ้นดี พี่ว่า พี่ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว พี่จะพาเหลากลับไปส่งบ้าน" ขาดคำของเหว่า ประดิษฐ์ก็โผล่พรวดออกจากที่ซ่อน
"ฉันรู้แล้วยัยพิน ว่าทำไมแกถึงกันท่าฉันไม่ให้เข้ามาที่นี่ ฉันจะไปบอกผู้ใหญ่ลีว่าไอ้บ้านี่แอบพาน้องสาวเขามาอยู่ที่นี่เอง แกเสร็จแน่ไอ้คนงานกระจอกเอ๊ย"
ทุกคนแตกตื่นตกใจ รีบวิ่งตามประดิษฐ์ออกไป
ในที่สุดประดิษฐ์ก็ถูกพวกวลัยจับตัวเข้าไปขังในห้องที่เรือนเล็ก หมดโอกาสปากโป้ง...

เย็นนั้น มาลินีตั้งใจมาเยี่ยมแม่ปุยที่ซูบซีดยังไม่ยอมกินข้าวกินปลา แต่พอรู้จากฉลวยว่าลีนวัตรกำลังจะไปแจ้งความเรื่องเฉลาหายตัวไป มาลินีก็รีบร้อนลงจากเรือนไปห้ามลีนวัตร ที่กำลังสตาร์ตรถ โดยให้เหตุผลว่า เธอกลัวเฉลาจะอับอายผู้คน ลีนวัตรกลับบอกว่า ไม่มีอะไรต้องอายอีกแล้ว มาลินีร้อนใจ เผลอปากว่าภายในวันสองวันนี้ยังไงเฉลาก็ต้องกลับมา ลีนวัตร เลยสงสัยว่ามาลินีรู้ได้ยังไง
มาลินีตอบอึกๆอักๆว่าเดาเอา ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน และเป็นเพื่อนบ้านที่หวังดี เคยมีความรู้สึกดีๆต่อทุกคนในบ้านของเขา อีกทั้งคุณยายของเธอก็เป็นคนที่เขา เคารพนับถือ เธอเชื่อว่าถ้ายายยังอยู่ ท่านก็ต้องคิดและทำอย่างเธอเหมือนกัน
"นะคะ...ผู้ใหญ่ลี ฉันขอร้อง อย่าเพิ่งไปแจ้งความให้ เรื่องนี้กลายเป็นคดีขึ้นมาเลย"
ลี นวัตรนิ่งไปชั่วขณะก่อนผละออกจากรถ มาลินีค่อยโล่งใจที่เหตุผลของเธอสามารถเปลี่ยนใจลีนวัตรได้...แต่พอเช้าอีก วัน มาลินีก็มีเรื่องให้หนักใจขึ้นมาอีก เมื่อพินพาทองใบ มาฝากทำงานบ้าน จะให้ทองใบทำอะไรก็ได้ แล้วแต่จะใช้ เพราะพินต้องการให้ทองใบปรับปรุงตัวทำงานทำการเสียบ้าง ไม่ใช่เอาแต่กินเหล้าเมาไร้สาระไปวันๆ
หลังตกปากรับคำกับพินเรียบร้อย แล้ว มาลินีมุ่งหน้าไปบ้านลีนวัตร เป็นเวลาปลอดคนพอดี มาลินีจึงแอบพาแม่ปุยมาที่บ้านของเธอ แล้วให้เฉลากับเหว่าออกมากราบขอโทษ แม่ลูกเลยบ่อน้ำตาแตก กอดรัดกันด้วยความรักแห่งสายใย... มาลินีดีใจที่แม่ปุยยกโทษให้เฉลากับเหว่า
"จะผิดพลั้งยังไงมันก็ลูกนี่ คะคุณ ต่อให้มันทำเรื่องน่าเสียใจขนาดไหน ก็ยกโทษให้มันได้อยู่ดี ป้าสบายใจขึ้นเยอะ เชียวค่ะ นี่ถ้าผู้ใหญ่ลีเขารู้ เขาก็คงเลิกกลุ้มซะทีเหมือนกัน"
"แต่คุณป้าจะให้ผู้ใหญ่ลีรู้ตอนนี้ไม่ได้นะคะ ไม่งั้นคนที่ต้องซวยที่สุดงานนี้ ไม่พ้นหนูแน่ๆค่ะ"
จาก นั้นมาลินีก็ออกไปพบลีนวัตรกลางทุ่งนา พูดคุยกันเรื่องข้าวใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ แล้วถือโอกาสชวนเขามากินข้าวกลางวันที่บ้านของเธอ อ้างว่าเพื่อนๆของเธออยากเลี้ยง ความจริง มาลินีจะให้เหว่ากับเฉลาปรากฏตัวกราบขอขมาลีนวัตร แต่สุดท้าย มาลินีก็ยังไม่กล้าอยู่ดี ได้แต่พูดคุยกรุยทางให้ไปก่อน จน กระทั่งค่ำได้เวลาอาหารอีกมื้อที่มาลินีมาร่วมวงกับครอบครัวลีนวัตรด้วย ลีนวัตรถึงรู้ความจริงว่าเหว่ากับเฉลาหลบไปอยู่บ้านมาลินี และแม่ปุยกับคนอื่นๆในบ้านก็รู้เรื่องนี้หมดแล้วด้วย
เฉลากับเหว่าเข้า มากราบขอขมาลีนวัตรด้วยความสำนึกผิด ทุกคนลุ้นกันใหญ่ว่าระเบิดจะลงหรือเปล่า แต่ลีนวัตร ก็เงียบ ไม่ดุด่าทั้งคู่ หากแต่เกิดอาการงอนมาลินีที่ไม่ยอมบอกแต่แรก จึงลุกหนีออกไปนอกบ้าน มาลินีต้องรีบตามไปอธิบาย แต่ลีนวัตรกลับเปิดฉากขึ้นก่อนด้วยความน้อยใจ
"ทุกคนเห็นผมเป็นตัวตลก"
"ไม่ เลยค่ะ ทุกคนกลัวคุณมากกว่า ถึงต้องใช้วิธีนี้ ฉันว่าฉันเข้าใจคุณนะคะ คุณเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่คาดหวัง ว่าทุกคนจะเดินตามทางที่คุณกำหนด แต่คุณต้องไม่ลืมนะคะว่าท้ายที่สุดแล้ว แต่ละคนเขาก็มีชีวิตของตัวเอง ฉันขอโทษถ้าคุณคิดว่าฉันเข้ามาจุ้นจ้านวุ่นวายเกินไป ฉันกลับละค่ะ ดึกแล้ว"
"ผมจะไปส่ง"
มาลินีชะงัก หันกลับมายิ้ม "ฉันคิดว่าจะไม่ได้ยินคำนี้ ซะแล้ว"
หนุ่ม สาวยิ้มให้กัน แล้วพากันกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ขณะเดียวกันนี้ วลัยกับสมรพลาดท่าปล่อยประดิษฐ์หลุดออกจากห้องไปได้ ประดิษฐ์โกยอ้าวไปบ้านลีนวัตรเพื่อบอกเรื่องเหว่ากับเฉลาหลบอยู่ที่บ้าน มาลินี แต่ต้องมาเจอทั้งเหว่าและเฉลาอยู่ที่นี่ครบ ประดิษฐ์เลยได้แต่หงุดหงิดหัวเสียกลับไป
เช้าอีกวัน ปื๊ดมาช่วยมาลินีเก็บไข่ไก่ วลัยกับสมรก็ลงมาแจมด้วย แต่วันนี้ทุกคนผิดหวังที่ไข่ไก่มีแค่สองสามฟอง ไม่มากเหมือนทุกวัน ปื๊ดบอกว่าสงสัยอากาศร้อนเกินไป ไก่มันเครียด เลยไม่ออกไข่ สามสาวเพิ่งรู้ว่าไก่ก็เครียดเป็นเหมือนกัน จากนั้นก็ช่วยกันคิดหาวิธีจะทำให้ไก่หายเครียด พอเรื่องนี้รู้ถึงหูลีนวัตร ลีนวัตรจึงรับปากมาลินีว่าเขาจะช่วยจัดการให้เอง
ทองใบยังขี้เกียจตัว เป็นขนเหมือนเดิม มาลินีให้ถางหญ้า ทองใบก็แอบหลับ แถมกรนเสียงดังได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน...ประดิษฐ์ก็เช่นกัน วันๆทำตัวลอยไปลอยมา เดี๋ยวก็โผล่ ไปร้านผู้ใหญ่โหมด ช่วยกันวางแผนกับสองพ่อลูกเพื่อแยกลีนวัตรกับมาลินีออกจากกัน เสร็จแล้วเขาก็กลับมาตอแยมาลินี แถมพูดจาดูถูกเหยียดหยามลีนวัตรหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ที่ประดิษฐ์เข้าใจว่าลีนวัตรจบแค่มัธยม มาลินีสุดจะเบื่อ ลุกขึ้นเดินหนี แต่ประดิษฐ์ก็ยังตามไม่เลิก นึกได้ว่ามีข่าวดี ผู้จัดละครช่อง 3 ติดต่อเขามา อยากให้มาลินีไปเล่น ละครให้ ซึ่งเขาเจาะจงไปแล้วว่าต้องเป็นบทนางเอกเท่านั้น แล้วก็เรียกค่าตัวไปแล้วด้วย ตอนละหกหมื่น เผื่อเขาต่อรอง ปรากฏว่าเขาไม่ต่อเลยสักบาท
แทนที่จะได้ยินคำขอบคุณจากมาลินี ประดิษฐ์กลับได้ยินคำต่อว่า มาลินีไม่พอใจที่ประดิษฐ์รับปากเขาไปแล้ว โดยไม่ถามเธอก่อนสักคำ
"ก็ ดิ๊กชัวร์ว่ามาต้องเล่นนี่ครับ แล้วอีกอย่างเขาอยากได้คำตอบเร็วๆด้วย ดิ๊กก็เลยเซย์เยสไปเลย อาทิตย์หน้าเขาจะขอฟิตติ้ง แล้วจะเปิดกล้องเลย"
"อาทิตย์หน้าฉันไม่ว่าง เพราะต้องเกี่ยวข้าว"
"มา... ละครเล่นง่ายๆ ถ่ายแป๊บเดียวก็เสร็จ วันหนึ่งได้ตั้งสามสิบสี่สิบฉาก มาไม่ต้องทำอะไรมากมายเลย ปัดขนตาให้สวยอย่างเดียวให้คนดูชอบก็พอแล้ว ทำงานสองสามเดือน เราก็ได้เงินเป็นล้านนะ"
"คุณโทร.ไปบอกเขาเถอะว่าฉันไม่ว่าง"
"มา...เกี่ยวข้าวน่ะมันเรื่องเล็กให้ใครทำก็ได้"
"แต่ฉันอยากทำงานของฉันเองมากกว่า เพราะมันเป็นนาของฉัน" มาลินียืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ประดิษฐ์เลยไม่กล้าเซ้าซี้เธออีก
ตก กลางคืน พินทะเลาะกับทองใบเสียงดังลั่นบ้าน มาลินีกับวลัยและสมรตกใจวิ่งกรูมาดูที่ห้อง เห็นพินกำลังระดมทั้งหมัดทั้งแข้งใส่ทองใบ แต่ปากพินดันบอกว่าทองใบทำร้ายเธอ พินรำพันเสียใจที่ทองใบไม่ปรับปรุงตัว ยังกินเหล้า เมายาทุกวัน
"กินแค่เป็นยา เข้าใจกันบ้างสิโว้ย" ทองใบเถียง
"เมา เป็นหมาทุกวัน ยาบ้านมึงสิ" พินด่าพร้อมกับโถมแข้งเข้าใส่จนทองใบจุกแอ่ก "อยากกินก็กลับไปกินบ้านมึงโน่น รู้จักเกรงอกเกรงใจคุณมาเธอมั่ง แล้วมึงกับกูขาดกันตั้งแต่วันนี้ไอ้ทองใบ กูไม่เอามึงแล้ว ตัวใครตัวมัน"
"นายทองใบหอบที่นอนหมอนมุ้งไปนอนที่อื่นก่อนไป ไม่งั้นคืนนี้ไม่มีใครได้พักผ่อนแน่"
ทอง ใบลุกขึ้นหอบสัมภาระออกไปตามที่มาลินีบอก เสียงด่าของพินยังดังไล่หลัง...ไปแล้วอย่ากลับมาให้เห็นหน้านะมึง...ด่าจบ พินก็ร้องไห้ฮือๆ สมรต้องปลอบพินใจเย็น พิน กลับคร่ำครวญว่าเลือกผัวผิด คิดจนตัวตายจริงๆ เจ็บใจนัก...
"อยู่ตัวคนเดียวเป็นนางสาวไปจนแก่ตายซะ ยังดีกว่า จริงไหมยัยพิน" วลัยถามขึ้นมา พินเอาแต่ร้องไห้ พยักหน้า หงึกหงัก มาลินีเห็นแล้วถอนใจ กลุ้มแทน...

ooooooo

บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

Blogger Template by Blogcrowds