ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 12

เช้าวันนี้ มาลินีมาดูลีนวัตรสอนชาวบ้านทำน้ำส้มควันไม้ ทีแรกมาลินีฟังชื่อแล้วนึกว่าพวกเดียวกับน้ำส้มสายชู แต่กลายเป็นว่ามันคือยากำจัดแมลงศัตรูพืชที่ชาวบ้านทุกคนสามารถทำเองได้ด้วย วิธีธรรมชาติ และไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพราะแทบทุกครัวเรือนก็เผาถ่านใช้กันเองอยู่แล้ว
"เวลาเราเผาถ่านจริงๆ แล้วจะเกิดน้ำส้มควันไม้ทุกครั้ง แทนที่เราจะทิ้งมัน เราจะเก็บมันมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ เราไม่จำเป็นต้องซื้อยาฆ่าแมลง เราก็ทำใช้เองได้ น้ำส้มควันไม้ ไม่มีสารตกค้าง หรือทำอันตรายพืชผลที่เราปลูกแน่นอน นั่นหมายถึงว่า ผลผลิตที่เราได้ก็จะปลอดภัยสำหรับการบริโภคด้วย ความจริงมันเป็นภูมิปัญญาที่มีทำกันมานานแล้วครับ คราวนี้ มาดูกันว่าอุปกรณ์มีอะไรบ้างนะครับ"
มาลินีฟังลีนวัตรอธิบายแล้วสุดทึ่ง และรู้สึกสนุก เธอ ทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน ชื่นชอบชีวิตในชนบท ขณะที่ลีนวัตรก็มีความสุขกับการมีมาลินีอยู่ใกล้ๆในสายตา พอตกเย็นมาลินีก็ออกไปเที่ยวตลาดนัดกับครอบครัวลีนวัตร หนุ่มสาวชี้ชวน กันชมตลาดอย่างสุขใจ เจอผักมากมายหลายอย่างที่ชาวบ้านเอามาวางขายกับพื้น มาลินีตื่นตาตื่นใจเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน และผักบางอย่างที่เธอเคยเห็นวางขายในซุปเปอร์มาร์เกตแพ็กนึงเกือบร้อย แต่ที่นี่แค่ห้าบาทสิบบาทเท่านั้น
ฉลวยวิ่งเข้ามากระซิบกระซาบมาลินีที่ เดินดูของสดกับลีนวัตร ฉลวยจะให้มาลินีไปช่วยเลือกซื้อชุดชั้นใน พอลีนวัตรรู้จากมาลินีก็ชะงักนิดนึง แต่ก็ยังตามไปอยู่ดี เลยถูกฉลวยแกล้งยื่นเสื้อยกทรงให้ดูจะจะ ลีนวัตรอายจัดจนหน้าแดง โกยหนีออกไปอีกทาง ส่วนเฉลากำลังเลือกผ้าขาวม้าเพื่อจะซื้อตอบแทน เหว่าที่วันก่อนซื้อโบว์ผูกผมให้เธอ พอดีเหว่าที่แอบตามมาทีหลังโผล่เข้ามาหา เฉลาจึงให้ช่วยตัดสินใจว่าจะเลือกสีไหนลายไหนจะได้ถูกใจ เหว่ายิ้มแต้ดีใจ บอกเฉลาว่าพี่จะกอดจะห่มผ้าผืนนี้ทุกวันทุกคืนเลย
ลีนวัตรเดินออกไปถึง มุมเครื่องเล่นที่ปี๊ดกำลังสนุกกับม้าหมุน ปี๊ดเห็นพ่อก็ร้องเรียกให้ขึ้นมาเล่นด้วยกัน ลีนวัตรปฏิเสธว่าเขาเอาไว้ให้เด็กเล่น ไม่ใช่ผู้ใหญ่ แต่พอปทุมปรี่เข้ามาเกาะติด ลีนวัตรก็ทำท่าจะหนีขึ้นไปนั่งกับปี๊ด ปทุมยังไม่วายเกาะแขนลีนวัตรหมับเป็นปลิง ขอขึ้นไปนั่งด้วยคน
ฉลวยกับ มาลินีซื้อของเสร็จแล้วเดินมองหาคนอื่นที่มาด้วยกัน แต่ไม่เจอใครสักคน ฉลวยบอกมาลินีว่าพี่ลีคงไปร้านหนังสือหาซื้อตำราเกษตร หรือไม่ก็พวกของเก่าของมือสองเชียงกง แกชอบซื้อมาดัดแปลงทำโน่นทำนี่ พอมาลินีเลียบเคียงถามถึงสาวๆที่ลีนวัตรจีบอยู่ ฉลวยกำลังจะบอกว่ามีอยู่คนเดียวคือมาลินี แต่ฉลวยยังพูดไม่ทันจบ มาลินีมองไปเห็นปทุมเกาะกอดแขนลีนวัตรแจ จึงเข้าใจว่าผู้หญิงที่ฉลวยกำลังจะบอกก็คือปทุมนี่เอง
มาลินีไม่ชอบใจนัก กับภาพที่เห็น เธอเดินหน้าตูมแยกไปจากฉลวย เพราะไม่อยากขัดความสุขของใคร ขณะมาลินีเดินขัดใจมาคนเดียว เธอเจอผู้ใหญ่โหมดกำลังชิมของฟรีอยู่หน้าแผงหนึ่ง พอผู้ใหญ่โหมดหันไปเห็นมาลินีก็สะดุดตาและจำได้ รีบเข้าแนะนำตัวแล้วตื๊อขายยากำจัดศัตรูพืชให้เธออีก แต่หนนี้ถูกเธอปฏิเสธแล้วเดินหนี มาลินีอารมณ์ค่อนข้างขุ่นมัว เพราะเจอเรื่องขัดตาขัดใจกวนความรู้สึกติดๆกัน กระทั่งเดินมาเห็นเฉลากับเหว่ากำลังหวานแหววหยอกล้อกันอยู่ เฉลาเอง ก็ชะงักเมื่อหันมาเห็นมาลินี เหว่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง หน้าจืดสนิท แล้วเดินผละจากไปทันที
เฉลาเอ่ยปากขอร้องมาลินีห้ามบอกเรื่องของเธอกับเห ว่า มาลินีพอจะเข้าใจ รับปากแข็งขันจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด ทางด้านลีนวัตรที่ถูกปทุมเกาะติดหนึบ เขารำคาญพยายามแกะมือปทุมออกบ่อยครั้ง ปื๊ดเองก็หมั่นไส้ แกล้งวิ่งผ่ากลางระหว่างทั้งคู่จนปทุมเซหงายหลังร้องวี้ด แต่พอตั้งหลักได้ ปทุมก็ควงแขนลีนวัตรอีกตามเคย ลีนวัตรอึดอัดแต่ไม่รู้จะหาทางไหน จนกระทั่งเดินไปเจอมาลินีกับเฉลาเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์พืชผัก ปทุมทำเป็นไม่เห็นหัวมาลินี ก่อนจะพูดจาแดกดันพอรู้ว่ามาลินีจะซื้อเมล็ดพันธุ์พืชผักไปปลูกกินเองที่ บ้าน แต่มาลินีทำเฉยไม่ใส่ใจ
เมื่อผู้ใหญ่โหมดเดินมาเจอคณะของลีนวัตร เข้าอีกคน ปื๊ดสุดจะเบื่อ เร่งลีนวัตรรีบกลับบ้าน พอเห็นทุกคนเดินมาที่ท่าเรือ เหว่ารีบอาสาลีนวัตรขับเรือให้ ลีนวัตรพยักหน้า เหว่าจึงลงเรือแล้วรับใครต่อใครลงมา ผู้ใหญ่โหมดกับปทุมตามมาส่ง แล้วไม่วายกระเซ้าลีนวัตรว่ารวยยังกะอะไรดี เมื่อไหร่ จะถอยปิกอัพโก้ๆมาขับสักคัน แต่ลีนวัตรบอกว่าตนมีทั้งเรือ เกวียน และควายอยู่แล้ว ขี้เกียจไปแย่งถนนกับใครเขา ไม่ต้องเร่งรีบ ไปเรื่อยๆแบบนี้สบายใจดี
หลังจากบอกลาสองพ่อลูกเรียบร้อย ลีนวัตรลงเรือเป็นคนสุดท้าย เขาสังเกตสีหน้ามาลินีเคร่งขรึม ไม่สนุกเหมือนตอนขามา พอเขาถอดหมวกจะส่งให้ เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ยิ้มไม่ขอบคุณ เฉลาก็พลอยเป็นไปด้วย หน้าบึ้งไม่ยอมรับหมวกจากพี่ชาย ลีนวัตรรู้ดีว่ามาลินีต้องงอนแน่ๆ พอเขาช่วยเธอหิ้วของไปส่งถึงบ้าน เธอกลับทำเมินเฉย พูดจาก็แปลกไป
ลีนวัตรจึงตัดสินใจถามเธอตรงๆ
"คุณมาไม่ได้งอนผมใช่ไหมครับ"
มาลินี ย้อนว่าทำไมเธอต้องงอนเขาด้วย ลีนวัตรจึงชี้แจงว่าเขากับปทุมไม่มีอะไรกัน มาลินียังประชดอีกว่า ถึงมีอะไรกันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
"เกี่ยวสิครับ เพราะผมกลัวว่าคุณมาจะเข้าใจผิด"
"ผู้ใหญ่ลีคะ คุณก็เป็นคุณ ฉันก็เป็นฉัน คุณจะมาแคร์อะไรนักหนา"
"แคร์ครับ แคร์มากด้วย"
"เอ๊ะ คุณนี่พูดไม่รู้เรื่องรึไง คุณจะมาวุ่นวายกับฉันมากไปแล้วนะ"
"ก็ ผมชอบคุณมานี่ครับ ถ้าคุณมาคิดว่าผมวุ่นวายกับคุณมามากเกินไป ผมก็เสียใจ จะให้ผมขอโทษก็ได้ แต่ผมอยากให้คุณมารับรู้ว่า คนเดียวที่ผมแคร์มากที่สุดก็คือคุณมาครับ"
มาลินีหน้าแดงซ่านจนไม่กล้าสบ ตาลีนวัตร แล้วบอกให้เขาไปคิดดูใหม่ คิดให้ดีๆก่อนจะพูดอะไรออกมา เพราะวันพรุ่งนี้เขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้...พูดจบมาลินีก็เดินหนีกลับเข้า บ้าน แต่สีหน้าซ่อนยิ้มด้วยความปีติ พอตกเย็น มาลินีขนเสื้อผ้าเก่าๆของยายในตู้ออกมาคลี่ดู มีทั้งผ้านุ่ง ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพิมพ์ เสื้อลูกไม้เรียบๆคลาสสิก แล้วพินแทบไม่เชื่อหู เมื่อได้ยินมาลินีบอกว่าเธอจะเอาเสื้อผ้าของยายมาใส่
มาลินีในชุดผ้าซิ่น มัดหมี่กับเสื้อลูกไม้เรียบเก๋หิ้วปิ่นโตอาหารไปบ้านลีนวัตร ทำเอาคนทั้งบ้านตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะลีนวัตรจ้องมาลินีตาค้าง ตะลึงในความสวย
"มองอะไรอยู่ได้ ฉันแต่งตัวอย่างนี้มันดูตลกนักรึไง" มาลินีถามเขินๆ
"ไม่ เลยครับ คุณมาแต่งตัวอย่างนี้ ผมว่าสวยกว่าแบบเก่าเป็นไหนๆ สวยยังกะนางฟ้า" ลีนวัตรไม่พูดเปล่า ยิ้มนัยน์ตาเป็นประกายฉ่ำไปด้วยความรัก มาลินีแทบเดินไม่เป็น ทั้งเขินทั้งขำท่าทางและคำพูดเปิ่นๆของเขา

ครู่ต่อมา ทุกคนนั่งล้อมวงกินข้าว มาลินีนำอาหารฝีมือพินและของตนมาแจมด้วย ปื๊ดถูกใจหมูอบฝีมือมาลินีเหลือเกิน กินเอาๆจนพุงกาง แถมชมแล้วชมอีกจนมาลินีสุดเป็นปลื้ม ส่วนลีนวัตรไม่ค่อยกิน เอาแต่จ้องมองมาลินีราวกับไม่เคยเห็น พอถูกน้องๆแซว ลีนวัตรก็ทำอะไรผิดๆถูกๆ เป็นที่เฮฮาของทุกคน...หลังอาหาร เฉลาอาสาเก็บจานลงไปล้างอีกตามเคย เนื่องจากเหว่ารออยู่นั่นเอง
จู่ๆ ทองใบก็โผล่ขึ้นมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับผู้ใหญ่ลี มาลินีจึงขอตัวไปล้างมือ อีกอย่างมาลินีก็อยากจะลงไปดูเฉลาด้วย แล้วมาลินีก็เห็นเหว่ากับเฉลานั่งคุยกันในมุมมืด เหว่าไม่กล้าเผชิญหน้ามาลินี รีบพาตัวเองออกไปทันที เฉลาเองก็หน้าไม่ดี ขอร้องมาลินีอย่าบอกแม่กับพี่ลีเรื่องของตนกับเหว่า มาลินีบอกว่าคนเราจะรักชอบกันไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียหาย นายเหว่าก็เป็นคนดีไม่ใช่เหรอ เฉลายอมรับว่าเหว่าเป็นคนดี แต่เขาเป็นแค่คนงาน เรียนจบแค่ ม.3 เธอกลัวแม่กับพี่ลีจะไม่ชอบ มาลินีจึงว่าเรียนสูงเรียนน้อยไม่ได้สำคัญไปกว่าเป็นคนดี ซื่อสัตย์และจริงใจ
"ถ้าแม่กับพี่ลีคิดได้อย่างคุณมาก็คงจะดีสิจ๊ะ...คุณมาอย่าบอกใครนะจ๊ะ เหลาขอร้อง"
"ถ้า งั้นฉันก็จะขอร้องเฉลาด้วยเหมือนกัน เฉลาเองก็ยังเรียนหนังสืออยู่ ตั้งใจเรียนให้จบก่อน อย่าเพิ่งชิงสุกก่อนห่าม ถ้าเฉลารับปาก ฉันก็จะทำตามที่เฉลาขอร้องเหมือนกัน ตกลงไหม"
"จ้ะ" เฉลารับคำ ยิ้มได้อย่างสบายใจ...
ส่วน บนเรือน ทองใบต้องผิดหวังหลังพยายามทู่ซี้ขอยืมเงินลีนวัตร ขณะเขาเดินคอตกลงเรือนสวนกับมาลินี ทองใบมองมาลินีอย่างผูกมิตร แต่ยังไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เดินจากไปเงียบๆ มาลินีพอรู้ธุระของทองใบ และรู้เหตุผลที่ลีนวัตรไม่ให้ยืมเงิน เธอก็เห็นด้วยกับลีนวัตร เพราะทองใบติดเหล้า งานการไม่ทำ เงินมีเท่าไหร่ก็เอาไปลงขวดเหล้าหมด ลีนวัตรจึงต้องสอนให้ทองใบรู้จักพึ่งตัวเอง และดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง
นับ วันมาลินียิ่งรู้สึกดีกับลีนวัตรหรือผู้ใหญ่ลีของชาวบ้าน และค่ำนี้เองเธอได้เข้าไปในห้องทำงานของลีนวัตร เห็นถึงความขยันของเขาที่กำลังทำวิทยานิพนธ์ มาลินีก็ยิ่งทึ่งและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยายของเธอถึงภูมิใจในตัวเขานัก
"คุณยายของคุณท่านเป็นคนส่งเสียให้ผมเรียนจนจบมหาวิทยาลัย เสียดายที่ท่านจากไปเร็วเกินไป ท่านน่าจะได้เห็นปริญญาโทของผมเสียก่อน"
"นี่คุณกะไปถึงปริญญาเอกเลยรึเปล่าคะเนี่ย"
"คง พอเท่านี้ล่ะครับ ผมว่าปริญญาเอกของผมอยู่ข้างนอกโน่น ในนา ในคลอง รอบบ้านหลังนี้ แล้วก็รอบๆหมู่บ้านของผมมากกว่าครับ ผมว่าการที่ผมใช้ความรู้กับประสบการณ์ ของผมมาช่วยคนในสังคมเล็กๆของผมให้เขาคิดและทำตามแนวความคิดของผมให้ได้ เป็นเรื่องท้าทายมากกว่าครับ"
"ความคิดของคุณนี่น่าทึ่งมากๆเลย ฉันเป็นหลานแท้ๆของยาย แต่ท่านก็คงหวังอะไรในตัวฉันไม่ได้เลย"
"ไม่ จริงหรอกครับ ท่านไม่ต้องการให้คุณรู้สึกถูกบังคับมากกว่า ท่านอยากให้คุณได้มาสัมผัสการใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยหัวใจของคุณเองมากกว่า"
"ฉันว่า...ฉันได้สัมผัสมันแล้วละ"
"ผมดีใจที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้"
หนุ่ม สาวมองกันนิ่งในความเงียบ และเหมือนมีแรงดึงดูดให้ทั้งคู่ค่อยๆยื่นหน้าเข้าหากัน แต่ไม่ทันได้สัมผัสกลิ่นอายของกันและกัน ทั้งคู่ก็ตกใจผละออกจากกันทันที เพราะปื๊ดส่งเสียงแจ้วๆ วิ่งเข้ามาในห้อง ปื๊ดไม่มีธุระอะไร แค่จะมาบอกมาลินีว่าตนจะเข้านอนแล้ว ลีนวัตรฟังแล้วแทบอยากจะเขกหัวปื๊ด แต่มาลินีแก้เขินด้วยการอวยพรปื๊ดให้นอนหลับฝันดี... จากนั้นลีนวัตรเดินไปส่งมาลินีที่บ้าน แล้วเขาเกือบจะได้สัมผัสแก้มขาวๆของมาลินี ถ้าพินไม่โผล่มาขัดจังหวะเสียอีก พินมาบอกมาลินีว่าได้ยินโทรศัพท์ในห้องดังหลายรอบแล้ว มาลินีขอบใจพิน ก่อนหันมาขอบคุณผู้ใหญ่ลีที่อุตส่าห์เดินมาส่ง
มาลินีขึ้นเรือนพร้อมพิน เธอเดินยิ้มกริ่มมีความสุขหัวใจเบิกบานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มาลินีเดินเข้าห้องมาหยุดริมหน้าต่าง เห็นลีนวัตรยังยืนอยู่ที่เดิม แถมส่งยิ้มหวานมองมาที่เธอด้วย...
เช้าขึ้นทองใบมาโผล่ที่บ้านคุณนาย วัน พินไล่ตะเพิดเพราะรู้ทันทองใบจะมายืมเงินมาลินี แต่ไม่ว่าพินจะดุด่ารุนแรงยังไง ทองใบก็ไม่โกรธ มาลินีเสียอีกที่รู้สึกสงสารทองใบ เมื่อทองใบเอ่ยปากขอข้าวกินสักมื้อก่อนกลับ มาลินีจึงให้พินจัดการ ส่วนเธอจะออกไปนา...พินกระแทกกระทั้นใส่ทองใบอย่างไม่พอใจ แถมยังด่าอีกมากมาย แต่พอทองใบชมว่าอาหารฝีมือพินสุดอร่อย และพินก็ใจดีอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์มาเกิด พินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เคลิ้มจัดถึงขนาดยอมให้ทองใบยืมเงิน
ผู้ใหญ่โหมดกับ ปทุมมาที่บ้านลีนวัตร พอรู้ว่าลีนวัตรออกไปนา ปทุมก็รีบตามออกไป ส่วนผู้ใหญ่โหมดอยู่ทางนี้ก็จีบแม่ปุยอีกตามเคย แต่ไม่ลืมทวงถามเรื่องที่ดินของคุณนายวัน ซึ่งผู้ใหญ่โหมดอยากจะซื้อ ถ้าแม่ปุยช่วยเจรจาสำเร็จจะมี
ค่านายหน้าให้ แม่ปุยจึงบอกให้เขารู้ว่าถ้ามาลินีจะขายก็ต้องขายให้ผู้ใหญ่ลีคนเดียว เพราะคุณนายวันแกสั่งไว้ แต่ก็คิดว่าตอนนี้ มาลินีคงไม่ขายแล้ว
ด้านปทุม ที่ออกมาตามหาลีนวัตรกลางทุ่งนา แล้วมาเจอลีนวัตรกำลังใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวมาลินี ช่วยสอนให้ขึ้นหลังควาย ปทุมเห็นภาพบาดตาถึงกับร้องกรี๊ดลั่นทุ่งก่อนพุ่งเข้าใส่ ด่าไม่ไว้หน้า
"ทำไม พี่ลีทำยังงี้ล่ะ พี่ลีมีทุมอยู่แล้วทั้งคนยังจะมาหาเศษหาเลยกับ...อ้อ นึกว่าใคร ที่แท้ก็แม่สาวกรุงเทพฯนี่เอง เหงาเปล่าเปลี่ยวมากรึไงยะ ถึงได้มาอ่อยแฟนคนอื่นเขากลางทุ่ง ไม่รู้จักอับอายผีสางเทวดายังงี้"
มาลินีเจอฤทธิ์น้ำไหลไฟดับของปทุมก็ตั้งตัวไม่ทัน ลีนวัตรเตือนปทุมจะพูดจาอะไรควรระวังปากระวังคำบ้าง ปทุมกลับตะเบ็งเสียงเถียงฉอดๆ
"ทำไม ทุมต้องระวังด้วย ก็อีนี่มันกำลังจะแย่งพี่ลีไปจากทุม ผู้ชายอื่นมีตั้งเยอะไม่มีปัญญาหามาทำผัวแล้วรึไง ถึงต้องมาแย่งของคนอื่นเขาอย่างนี้"
"ทุม..." ลีนวัตรปราม แต่ปทุมหึงหวงจนไม่แตะเบรก
"เห็น อยู่คาตาว่ากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับมัน พี่ลียังจะมาแก้ตัวแทนมันอีกเหรอ ไม่รู้ฤทธิ์อีทุมซะแล้ว ขอตบสั่งสอนอีไฮโซกรุงเทพฯหน่อยเถอะ"
ปทุมปราดเข้ามาเงื้อง่า ลีนวัตรีบเอาตัวบังมาลินี เฉาก๊วยที่หงุดหงิดรำคาญเสียงความถี่สูงของปทุม มันลุกพรวดขึ้นทันที เดินเข้าหา ปทุมตกใจด่าควายลั่นทุ่ง เฉาก๊วยเหมือนจะฟังรู้ ยิ่งเดินเข้าใส่ ปทุมก็ยิ่งกรี๊ดด้วยความกลัว พร้อมกับวิ่งหนีไม่คิดชีวิตจนหกล้มหกลุกตกคันนา เนื้อตัวเปื้อนเปรอะไปด้วยโคลน วิ่งโร่กลับไปบ้าน ผู้ใหญ่โหมดกำลังจับมือถือแขนแม่ปุยจะเผยความในใจ ก็มีอันต้องสะดุดหยุดลงกับเสียงกรี๊ดแปดหลอดของปทุม
ฝ่ายมาลินีกลับไป ถึงบ้านก็พบพินทำงานบ้านไปร้องเพลงไปอย่างอารมณ์ดี พอมาลินีรู้ว่าพินให้เงินทองใบยืม เธอแทบไม่เชื่อหู ขณะที่พินรีบกลบเกลื่อนว่าคุณมาไม่ต้องห่วง พินไม่ได้ให้ยืมเปล่าๆ พินคิดดอกด้วย เขาไม่มีทางเบี้ยว ขืนเบี้ยวต้องโดนดีแน่
ระหว่างนี้ ทั้งคู่ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้าน ประดิษฐ์ เหมาแท็กซี่มาจากกรุงเทพฯสองพันห้า แต่หน้าด้านยืมเงินมาลินีจ่าย โดยอ้างว่าไม่มีเงินสดติดตัว มีแต่บัตรเครดิต...มาลินีจำใจต้อนรับ แล้วพาเขาไปพักที่เรือนหลังเล็ก ประดิษฐ์ไม่ชอบใจ ย้ำว่าตนเป็นแฟน ไม่ใช่คนงาน ถึงต้องมาอยู่ที่นี่ มาลินีจึงขอร้องประดิษฐ์เลิกใช้คำคำนี้เสียที เพราะเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอต้อนรับเขาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ถ้าเขาอยู่ที่นี่ไม่ได้
ก็กลับไปซะ...ประดิษฐ์หน้าจ๋อย แต่ไม่วายต่อว่ามาลินีใจร้าย...
ลี นวัตรกลับเข้าบ้านหลังจากปทุมชำระล้างเนื้อตัวเสร็จแล้ว ปทุมตาเขียวใส่ลีนวัตรก่อนจะตัดพ้อต่อว่า เธอผิดหวังในตัวเขาที่สุด ลีนวัตรจึงย้อนถามปทุมว่า มาหวังอะไรในตัวพี่
"ยังจะมาพูดยังงี้อีก ใครๆเขาก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน"
"พี่ว่าพี่ไม่เคยทำให้ทุมรู้สึกอย่างนั้นนะ"
"แล้วที่ผ่านมา มาทำเจ๊าะแจ๊ะกับทุมทำไม"
"ทุม...พี่รู้สึกกับทุมแค่น้องสาวพี่คนนึงเท่านั้นเอง"
"ทุเรศ...พอมีอีผู้หญิงกรุงเทพฯนั่นมาอ่อยให้ท่าเข้าหน่อย พี่ลีก็พูดกับทุมยังงี้เลยเหรอ"
"อย่าเรียกใครต่อใครเขาอีโน่นอีนี่ ใครได้ยินเข้ามันไม่ดี ไม่สุภาพ เขาไม่เสียหรอก แต่ทุมน่ะแหละจะเสีย"
"ก็ทุมจะเรียกซะอย่าง ใครจะคิดยังไงก็ช่างหัวมัน ทุมไม่สน...อีนั่นมันไม่มีทางแย่งพี่ลีไปจากทุมได้หรอกคอยดู"
ลีนวัตรเบื่อหน่ายเดินหนี ปทุมยิ่งของขึ้น ร้องด่าพี่ลีตาถั่ว อีนั่นมันมีดีกว่าทุมตรงไหน?
เย็น นั้น วลัยกับสมรโทร.หามาลินี ทั้งคู่เป็นห่วงมาลินีพยายามเกลี้ยกล่อมให้กลับกรุงเทพฯ มาลินีขอบใจเพื่อน ก่อนยืนยันว่าตนอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง และตอนนี้ข้าวในนาก็เริ่มแก่ อีกไม่นานก็จะเกี่ยวได้ ถ้าทั้งคู่ว่างจะมาช่วยก็ได้...วลัยกับสมรฟังแล้วอึ้ง ไม่คิดว่ามาลินีจะดื้ออย่างนี้
ขณะเดียวกัน ประดิษฐ์จงใจไปหาเรื่องลีนวัตรที่กำลังเก็บผักที่ปลูกไว้หัวไร่ปลายนา ประดิษฐ์เดินเข้ามากวนประสาท คุยข่มคุยอวดว่ามาลินีเป็นคนโทร.ไปตามให้ตนมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ลีนวัตรนิ่งเฉยไม่ใส่ใจ ประดิษฐ์เลยเก้อไปเอง
ขณะผู้ใหญ่โหมดกับปทุม นั่งรถกลับออกจากบ้านลีนวัตร เห็นปื๊ดเดินกลับจากโรงเรียน ผู้ใหญ่โหมดเกิดความคิดบางอย่าง รีบจอดรถทักปื๊ด แล้วควักแบงก์ร้อยให้ไว้กินขนม แต่ปื๊ดปฏิเสธเพราะพ่อเคยบอกไม่ให้รับเงินใครเปล่าๆ แต่พอผู้ใหญ่โหมดคว้าโทรศัพท์มือถือของปทุมที่ถ่ายรูปและเล่นเกมได้มาให้ ปื๊ดยืม ปื๊ดก็รับมันมาทันที เพราะเป็นรุ่นที่อยากได้มานานแล้ว เซ้าซี้พ่อก็ไม่ยอมซื้อให้สักที
หลังจากปื๊ดเดินเริงร่าจากไป ปทุมหงุดหงิดไม่เข้าใจพ่อที่เอาโทรศัพท์ของตนให้ปื๊ดไป ผู้ใหญ่โหมดจึงสาธยายว่า เราต้องหาพันธมิตรเอาไว้ใช้กับงานของเรา ไอ้ปื๊ดนี่แหละจะช่วยเราได้เยอะ อย่างน้อยมันก็จะเป็นหูเป็นตาให้เราได้ ปทุมสงสัยว่าเป็นหูเป็นตายังไง เห็นมันปลื้มมาลินีจะตาย คนเป็นพ่อจึงว่ามันเป็นแผนของผู้ใหญ่ลีที่หลอกใช้เด็กเป็นพ่อสื่อ
"เอ็ง เชื่อพ่อเหอะทุมเอ๊ย ผู้ใหญ่ลีมันอยากจะจับนังนั่นทำเมีย เพราะมันหวังจะฮุบที่ดินนังนั่นแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อซักบาทไง" ผู้ใหญ่โหมดคิดอคติ ประสาคนหัวการค้าที่ฉลาดแกมโกง...
ooooooo
ตอนที่ 13
ปื๊ด กลับถึงบ้านก็ไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ แม่ปุยเรียกมาช่วยงานในครัว ปื๊ดก็อิดออด กระทั่งลีนวัตรต้องมายึดโทรศัพท์ไว้กับตัว แล้วเกิดซักถามปื๊ดจนรู้ว่ามันเป็นของใคร
มาลินีเห็นพินห่อข้าวต้มลูก โยนจะเอาไปทำบุญที่วัดพรุ่งนี้ มาลินีสงสัยทำไมต้องเป็นข้าวต้มลูกโยน พินบอกว่า วันออกพรรษาพระพุทธเจ้าท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์มาโปรดพระมารดาของท่าน คนจะเบียดเสียดแย่งกันใส่บาตรจนเข้าไม่ถึงพระ ก็เลยต้องมัดข้าวต้มให้มีหางยาวๆ จะได้โยนใส่บาตรได้
"นี่ฉันไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้เลยนะเนี่ย ไปวัดก็แทบจะนับครั้งได้"
"ก็คุณเป็นคนกรุงเทพฯนี่คะ ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว"
"เวลามีความทุกข์ทีถึงจะนึกถึงวัด หรือไม่งั้นก็ปัดๆไปว่าเป็นเรื่องของคนแก่"
"สนุกจะตายไปค่ะคุณ ไปวัดได้ไปเจอคนตั้งเยอะแยะ"
มาลินี อยากลองทำบ้าง ให้พินช่วยสอน พร้อมกันนี้ มาลินีก็เลียบเคียงถามพินว่า ปทุมเป็นแฟนผู้ใหญ่ลีนานแล้วเหรอ พินย้อนถามคุณมาไปฟังมาจากใคร มาลินีบอกว่าปทุมพูดเอง พินจึงไม่ให้มาลินีสนใจ รายนี้ชอบขี้ตู่เป็นแฟนกับใครต่อใครไปทั่ว แล้วแต่ว่าใครจะดูดีขนาดไหน แต่พินอยากรู้ที่คุณมาถามนี่ เพราะหึงหรือเปล่า มาลินีรีบปฏิเสธเสียงหลง ตนกับผู้ใหญ่ลีไม่ได้เป็นอะไรกัน จะต้องหึงทำไม แต่พินยังกระเซ้าว่า จริงเหรอ?
"บ้าใหญ่แล้วพิน ฉันกับเขาเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ"
"ทำไม เป็นแฟนไม่ได้ล่ะคะ ผู้ใหญ่ลีแกดีจะตาย พินยังคิดเลยว่าถ้าตัวเองสาวกว่านี้อีกนิด สวยกว่านี้อีกหน่อย ถึงผู้ใหญ่ลีแกจะไม่สน พินก็พร้อมจะถวายตัวละค่ะ...พินว่าผู้ใหญ่ลีแกชอบคุณจะตาย เวลาแกแอบมองคุณนะคะ พินว่าน้ำแข็งยังละลายเลยค่ะ"
มาลินีขวยเขิน หาว่าพินพูดไปเรื่อย ตนยังรู้จักเขาไม่ดีพอ อีกอย่างตนก็กลัวลูกสาวผู้ใหญ่โหมดจะมาข่วนหน้าเอาเปล่าๆ
ตก กลางคืน ผู้ใหญ่โหมดโทร.เข้ามือถือปทุมที่ให้ปื๊ดมา ปื๊ดรับสายแล้วส่งต่อให้แม่ปุยอย่างเซ็งๆ ลีนวัตร เฉลา ฉลวย และปื๊ดได้ยินเสียงสนทนาของแม่ก็รู้ว่าผู้ใหญ่โหมดจีบแม่แน่ ด้านผู้ใหญ่โหมดพยายามตื๊อหนัก แต่แม่ปุยก็ตีกันท่าเดียว จนเขาสงสัยว่าแม่ปุยอาจตายด้านเรื่องนี้ไปแล้ว
ที่บ้านมาลินี ประดิษฐ์นั่งหน้าตูมมองกับข้าวพื้นบ้านพวกน้ำพริกผักจิ้มที่กินมาแล้วสอง มื้อ มาลินีเปรียบอาหารพวกนี้เหมือนสลัด แต่เป็นสลัดแบบไทยๆ ถ้าเขากินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน ไม่มีใครบังคับ เจอไม้นี้เข้าประดิษฐ์ถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน แล้วพาลโทษผู้ใหญ่ลีทำให้มาลินีเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ พอมาลินีออกรับแทน ประดิษฐ์ก็ยิ่งฉุน
"มาจะต้องเสียใจเข้าสักวัน แล้วจะหาว่าดิ๊กไม่เตือนไม่ได้นะ ลูกเมียมันก็มีแล้ว มาชอบมันเข้าไปได้ยังไง"
"ไม่ รู้อะไรก็ไม่ต้องพูดเลย บางทีอาจจะดีกว่า ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ รีบกินให้เสร็จซะ ฉันจะได้เก็บจานชามไปล้าง หรือคุณจะล้างเอง พินก็คงไม่รังเกียจหรอก" มาลินีลุกออกไป ประดิษฐ์รู้สึกขัดใจเป็นบ้า

0 Comments:

Post a Comment



บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

Blogger Template by Blogcrowds