ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 6


เช้าขึ้นปื๊ดออกจากบ้านเหมือนจะไปโรงเรียน แต่ดันมาโผล่ที่บ้านคุณนายวันเพื่อดักเจอมาลินีที่เตรียมตัวเดินทางกลับ กรุงเทพฯ มาลินีเห็นหน้าเศร้าๆกับน้ำเสียงตัดพ้อด้วยความใสซื่อของเด็กชายแล้วใจคอ อ่อนยวบ ดึงปื๊ดเข้ามากอด และห้ามไม่ให้ร้องไห้
"อ้าวไอ้ปื๊ด แอบหนีโรงเรียนนี่หว่า รีบไปเลยป่านนี้เขาเข้าแถวร้องเพลงชาติกันแล้ว" ลีนวัตรเดินเข้ามาส่งเสียงไล่ ปื๊ดจึงรีบสำทับมาลินีอีกครั้ง
"ไม่รู้ละ ผมจะมานั่งคอยคุณมาตรงนี้ทุกวันจนกว่าคุณมาจะกลับมา" พูดจบปื๊ดก็หิ้วปิ่นโตวิ่งออกไปทันที มาลินีแทบสะอึกกับเงื่อนไขของเด็กที่ท่าทางจะเอาจริง...

เมื่อลี นวัตรไปส่งมาลินีถึงท่ารถสองแถว เขามอบสมุดบัญชีเงินฝากของคุณนายวันให้เธอไปด้วย และกำชับให้เธอกลับมาทำเรื่องมรดกให้เรียบร้อยจะได้หมดปัญหา ไหนๆก็จะขายทุกอย่างอยู่แล้ว มาลินีไม่พูดอะไรกับเขา นอกจากฝากโทรศัพท์มือถือไปคืนผู้ใหญ่ลี และฝากขอบคุณผู้ใหญ่ลีสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่าง
พอกลับมาถึงบ้าน ลีนวัตรแทบไม่อยากขึ้นไปเพราะผู้ใหญ่โหมดกับปทุมกำลังเสวนาอยู่กับแม่ปุย แต่จนแล้วจนรอดลีนวัตรก็เลี่ยงไม่ได้ แถมยังถูกปทุมคะยั้นคะยอให้กินขนมเค้กที่ซื้อมาฝาก ขณะที่ผู้ใหญ่โหมดก็ชักชวนให้เขาซื้อรถไถนารุ่นใหม่ที่ทำงานได้สารพัด ทั้งไถนา ดำกล้า หว่านปุ๋ย พ่นยา ลีนวัตรออกจะรำคาญแต่ก็ต้องรักษามารยาท ปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่า ขอเวลาตนคิดดูอีกที
จากนั้นลีนวัตรรีบขอตัว ผู้ใหญ่โหมดที่อยากได้ลีนวัตรเป็นเขยใจจะขาดจึงกระทุ้งศอกเข้าสีข้างลูกสาว ให้ตามไป ปทุมเลยโดดเกาะลีนวัตรเป็นปลิง ขอไปเดินเล่นด้วยคน...
ลีนวัตรอึดอัดพยายามจะสลัดปทุมให้ได้ จึงพาเธอออกไปทุ่งนาแล้วลากควายลงอาบน้ำถูขี้ไคลให้มัน ปทุมเลยไม่กล้าตอแย
เขาอีก ได้แต่ยืนเซ็งอยู่บนคันนา
ส่วน ผู้ใหญ่โหมดที่พึงพอใจแม่ปุย เมื่ออยู่กันตามลำพังก็พูดจาจีบแม่ปุยโจ่งแจ้ง พอปื๊ดกลับจากโรงเรียนมาเจอก็ไม่พอใจ ยิ่งได้ยินผู้ใหญ่โหมดเรียกตนว่าเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยง ถึงแม้จะเป็นความจริงแต่ปื๊ดก็โกรธผู้ใหญ่โหมดอย่างมาก จึงเอาคืนด้วยการแอบหยิบขนมเค้กมาวางบนเก้าอี้ตอนผู้ใหญ่โหมดลุกขึ้นยืน พอผู้ใหญ่โหมดลงนั่งอย่างเดิมจึงทับลงบนเค้กเต็มๆ ครั้นแกจะเล่นงานปื๊ดด้วยความโมโห ปื๊ดก็วิ่งหนีไปไกลเสียแล้ว
เมื่อสอง พ่อลูกกลับไปแล้ว แม่ปุยจึงจะทำโทษปื๊ดด้วยก้านมะยมที่แกล้งผู้ใหญ่โหมด แต่ลีนวัตรพอรู้ต้นสายปลายเหตุว่าผู้ใหญ่โหมดเรียกปื๊ดว่าเด็กเก็บมาเลี้ยง จึงห้ามแม่ปุย และว่าแม่อย่าไปโกรธมันเลย เด็กมันก็มีหัวใจ ผู้ใหญ่ที่คิดว่าปมด้อยของเด็กเป็นเรื่องสนุกของตัว มันก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน...
ข้างฝ่ายมาลินี กลับไปถึงคอนโดฯก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก เพราะแฟนหนุ่มจัดฉากรอรับอย่างโรแมนติก พอตกค่ำทั้งคู่ก็พากันออกไปดินเนอร์อย่างมีความสุข ลืมเรื่องระหองระแหงกันก่อนไปต่างจังหวัดจนหมดสิ้น ยิ่งเมื่อประดิษฐ์รู้จากมาลินีว่ายายของเธอตายนอนรอวันเผาศพอยู่วัด แต่ก่อนตายยายได้ทำพินัยกรรมยกมรดกไว้ให้เธอด้วย ประดิษฐ์หูตาพองก๋า ยุให้มาลินีขายทุกอย่างแล้วเอาเงินมาดาวน์บ้านซักหลังในกรุงทพฯ เงินที่เหลือก็ทำธุรกิจเล็กๆของเรา มาลินีฟังแล้วก็ทำท่าเห็นดีเห็นงาม
ปื๊ด นอนหลับไปแล้ว หลังจากพยายามอ้อนขอโทรศัพท์ มือถือจากลีนวัตรแต่ไม่สำเร็จ ลีนวัตรสะสางงานอีกนิดหน่อยก็ทำท่าจะนอนเหมือนกัน แต่จู่ๆมือถือดังขึ้นมา ชายหนุ่มกดรับด้วยความแปลกใจ ปรากฏว่าเป็นมาลินีโทร.มาขอบคุณผู้ใหญ่ลีที่ช่วยเป็นธุระให้เธอหลายเรื่อง ตั้งแต่จัดการเรื่องงานศพยาย ดูแลบ้านช่องให้ แม้กระทั่งสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งเธอเสียดายมากที่ไม่มีโอกาสได้พบลุงผู้ใหญ่
"ได้เจอไอ้เหว่ามันก็เหมือนได้เจอลุงนั่นแหละหนู" ลีนวัตรตอบกลับไป
"เหมือนยังไงคะคุณลุง หนูว่านายเหว่าน่ะเป็นคนกวนประสาทจะตาย หนูบอกตามตรงว่าหนูไม่ค่อยชอบขี้หน้านายคนนี้เท่าไหร่"
"เอ้อ ลุงหมายความว่า...หนูอยากได้อะไร คิดอะไรอยู่ ไอ้เหว่ามันก็มาบอกลุงทุกอย่างแหละ หนูคิดดีแล้วเหรอเรื่องที่จะขายที่น่ะ"
"ค่ะ...หนูคงไม่มีปัญญาไปอยู่ที่นั่นหรอกค่ะ"
"ไม่ใช่ว่ารังเกียจคนบ้านนอกเหรอ"
"ไม่ ค่ะ ไม่เลยค่ะ หนูจะคิดอย่างงั้นได้ยังไงคะ โธ่ หนูยังไปกินข้าวฝีมือป้าปุยตั้งหลายมื้อ ยังจำรสชาติน้ำพริกฝีมือป้าปุยได้เลยค่ะ แต่หนูมาคิดดูแล้ว หนูเกิดแล้วก็เป็นคนกรุงเทพฯนะคะ หนูคงไปใช้ชีวิตที่นั่นไม่ได้แน่ๆ"
"ไม่ใช่ว่าติดแฟนเรอะ"
"คุณลุงว่าอะไรนะคะ"
"เปล่าๆ ถ้าตั้งใจจะขายจริงๆ จะได้เตรียมเอกสารเตรียมอะไรๆไว้ให้พร้อมจะได้ไม่เสียเวลา"
"ไปคราวหน้า เผาศพคุณยาย หนูคงได้พบคุณลุงผู้ใหญ่ นะคะ"
"อืม...ได้พบสิ ได้พบแน่ๆ"
"งั้น คืนนี้หนูรบกวนคุณลุงเท่านี้ก่อนนะคะ อ้อ...หนูลืมบอกไปว่าเสียงขลุ่ยของคุณลุงเพราะมากค่ะ แต่อย่าหาว่าหนูขี้ฟ้องเลยนะคะ หนูว่าคนงานของคุณลุง นายเหว่าน่ะค่ะ บางทีก็แปลกๆ คุณลุงคงไม่ทราบว่าลับหลังคุณลุงเขาชอบวางท่าว่ารู้ดี แล้วก็ท่าทางเขาจะไม่กลัวคุณลุงเลยละค่ะ คุณลุงต้องระวังๆนายคนนี้หน่อยนะคะ"
"อืม...ไอ้เหว่ามันก็ยังงี้แหละหนู บางทีมันก็เกินๆล้นๆ ไปบ้าง แต่มันก็เป็นคนดีใช้ได้นะ มันซื่อแล้วจริงใจ"
"เหรอ คะ...คุณลุงคะ หนูขอถามอีกอย่างเดียว ทำไมเสียงคุณลุงผู้ใหญ่หนุ่มจังเลยคะ หนูว่าเสียงหนุ่มกว่าอายุจริงซะอีก ถ้าเทียบอายุกับป้าปุยแล้ว หนูว่าคุณลุงน่าจะอายุซักเกือบๆหกสิบ"
ลีนวัตรแกล้งไอโขลกแล้วกดเสียงเป็นคนแก่จัด "เหรอ... พอตกดึกน้ำค้างมันลงเสียงลุงมันชอบใสขึ้นมายังงี้แหละหนู"
"เหรอคะ แปลกจัง งั้นหนูรบกวนคุณลุงเท่านี้ดีกว่านะคะ สวัสดีค่ะคุณลุงผู้ใหญ่"
"เจริญสุข...สวัสดี"
มาลินีวางสาย อมยิ้มแล้วพึมพำ "โบร้าณโบราณ... เจริญสุข สวัสดี...อืม แต่ก็คงสมวัยแกน่ะแหละ"
แต่ทางลีนวัตรนั้นรอยยิ้มที่ฉาบหน้าอยู่ค่อยๆเหือดแห้งหายไป รำพึงกับตัวเองเสียงแผ่ว "จะมีอะไรทำให้คุณเปลี่ยนใจได้บ้างไหม"


ooooooo


กลับ มาได้แค่วันเดียวมาลินีก็ต้องเริ่มถ่ายแฟชั่น และยังมีคิวงานอื่นรออยู่อีกหลายงาน ประดิษฐ์ทำตัวเป็นองครักษ์เช่นเดิม แต่คราวนี้เขาเปลี่ยนไป ไม่ปากมากกับทีมงาน แถมเอาอกเอาใจมาลินีสารพัด ไม่ว่าเธออยากกินอะไร เขาจัดมาให้ในทันที
หลังจากเสร็จงาน มาลินีนัดเจอสมรกับวลัย สองสาวดีใจ แต่พอรู้ว่ามาลินีหนีบเอาประดิษฐ์มาด้วย วลัยก็เซ็งเป็ด เพราะกะจะแฉความเลวของประดิษฐ์ที่แอบควงสาวอื่นลับหลังมาลินี ครั้นทั้งหมดมาเผชิญหน้ากันที่ร้านอาหาร วลัยก็ไม่วายจิกกัดประดิษฐ์อยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องที่ประดิษฐ์ไม่ทำงาน ไม่มี เงิน คอยแทะมาลินีไปวันๆ อย่างอาหารมื้อนี้แทนที่เขาเป็นผู้ชายจะเป็นฝ่ายต้องจ่าย แต่กลับกลายเป็นมาลินีอีกตามเคย
ประดิษฐ์ชักรำคาญความจุ้นจ้านของวลัย เขาขอตัวไปห้องน้ำ แล้วไปเจอสาววัยรุ่นรูปร่างหน้าตาสวยเป็นที่พึงพอใจ ประดิษฐ์ไม่รีรอเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะจนได้เบอร์โทร.ของหล่อนมา ขณะเดียวกันที่โต๊ะอาหาร วลัยกับสมรก็เล่าเรื่องที่เห็นประดิษฐ์ ควงหญิงอื่นอย่างสนิทสนม แต่ด้วยความรักที่มีให้ประดิษฐ์เพียงคนเดียวมาลินีจึงไม่ค่อยเชื่อที่เพื่อน เล่า ซ้ำยังว่าเพื่อนมีอคติกับเขาเกินไป ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนของเขาก็ได้
จนกระทั่งมาลินีได้เห็นกับตา ตัวเองหลังออกจากร้านอาหารแล้วประดิษฐ์ขับรถไปส่งเธอที่หน้าคอนโดฯ แต่เธอไม่ได้กลับขึ้นห้องอย่างที่เขาคิด เธอนั่งแท็กซี่สะกดรอยตามเขาไป จนเห็นว่าเขารับผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นรถแล้วตรงเข้าโรงแรมม่านรูด มาลินีหน้าซีดหน้าเสียแต่ก็แข็งใจตามเข้าไปถึงข้างใน แล้วก็ได้เห็นประดิษฐ์ในสภาพเนื้อตัวนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว ส่วนผู้หญิงก็นุ่งกระโจมอกด้วยผ้าขนหนูเช่นกัน

ภาพที่เห็นบอกทุกอย่างชัดเจน มาลินีจึงไม่ต้องพูดอะไรอีก เธอวิ่งน้ำตาร่วงออกมาทันที ขณะที่ประดิษฐ์ตกใจลนลานจะตามแต่ก็ไม่ถนัดเพราะติดขัดเรื่องเสื้อผ้า มาลินีกลับไปร้องไห้กับวลัยและสมร ซึ่งสองเพื่อนรักก็ทั้งปลอบและให้กำลังใจมาลินีอย่างเต็มที่
เมื่อมาลินี กลับมายังห้องพักในคอนโดฯ เจอประดิษฐ์ ปักหลักเว้าวอนขอโทษอยู่หน้าห้อง มาลินีไม่ใจอ่อนเหมือนทุกครั้ง รีบหนีเข้าห้องแล้วโทรศัพท์หาผู้ใหญ่ลีทันที นัดให้ เขามารับเธอที่ตลาดในวันพรุ่งนี้...ลีนวัตรสุดแสนดีใจ พอปื๊ดรู้อีกคน ปื๊ดดีใจยิ่งกว่า ไชโยโห่ร้องกระโดดตัวลอย...
รุ่งเช้า มาลินีหิ้วกระเป๋าออกจากห้องลงไปเจอประดิษฐ์ ยังปักหลักรอคอย แต่เธอไม่ยอมบอกเขาว่าจะไปไหน
"มาจะไปไหน ทำไมต้องมาสนใจด้วยล่ะคะ ก่อนหน้านี้ คุณทำอะไรยังไม่เห็นจะสนใจความรู้สึกของมาเลย"
"ดิ๊ก ผิดไปแล้ว ยกโทษให้ดิ๊กเถอะนะครับ เมื่อวานพอมาหนีดิ๊กกลับมาแล้ว ดิ๊กก็ไล่ตะเพิดผู้หญิงคนนั้นไปเลย ดิ๊กกับเขายังไม่มีอะไรกันหรอกครับ มาสบายใจได้"
"แต่ถ้ามาไม่ได้ตามไป ป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนแล้วอย่างนั้นใช่ไหมคะ"
"โธ่...มาครับ...ลูกผู้ชายทุกคนน่ะมันต้องกอบโกยประสบการณ์ชีวิตแบบนี้กันทุกคนละครับ ไม่งั้นเสียชาติเกิด จริงๆนะ"
"อ้อ...อย่างนั้นเหรอคะ"
"ถ้ามาไม่ชอบให้ดิ๊กเป็นอย่างนี้ ดิ๊กเลิกก็ได้ ทีหลังดิ๊กจะไม่ทำอีกแล้วครับ"
"เลิกง่ายจังเลยนะคะ"
"ก็เพื่อมา ดิ๊กทำได้ทุกอย่างแหละครับ เรามาดีกันนะ"
"ดิ๊ก... มาคงไม่ใช่คนดีพอสำหรับดิ๊กหรอก เพราะมาไม่ชอบแบ่งปันคนรักกับใคร เราน่าจะห่างๆกันสักพัก ดิ๊กเองก็อาจจะได้เจอคนใหม่ที่เขาใจกว้างกว่ามาก็ได้" มาลินีเดินจากไป ประดิษฐ์ยืนเหวอ นึกไม่ถึงว่าเธอจะใจแข็งแบบนี้...


ooooooo


ลี นวัตรเลือกเสื้อค่อนข้างเก่าใส่ไปรับมาลินีที่ตลาด เพื่อให้สมกับเป็นนายเหว่าคนงานของผู้ใหญ่ลี แต่เมื่อมาลินีเห็นคนมารับก็ทำท่าไม่ปลื้ม เพราะถูกเขาแกล้งแล้วแกล้งอีกจนเธอหมั่นไส้และไม่ค่อยจะไว้ใจ
ก่อนลงเรือ มาลินีเดินหาซื้อของในตลาดไปฝากปื๊ดและทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ลีที่มาลินีเข้าใจว่าแก่คราวคุณลุง แถมนายเหว่าก็ยังพูดทำนองนั้น เธอจึงซื้อหมากพลูไปฝากผู้ใหญ่ลี ทำเอาลีนวัตรหัวเราะขำแทบชักดิ้นชักงอ จนแม่ปุยต้องไล่ตะเพิดลงจากเรือน
ครั้นกลับ มาอยู่คนเดียวที่บ้านของยาย มาลินีอดนึกถึงเรื่องที่ประดิษฐ์นอกใจเธอไม่ได้ คิดไปน้ำตาก็ซึมเอ่อออกมา ปื๊ดขึ้นบันไดมาเห็นเข้าพอดี ปื๊ดถามคุณมาร้องไห้ทำไม ใครทำอะไร บอกปื๊ดมาเลย เดี๋ยวจะจัดการให้ มาลินีรีบเช็ดน้ำตา บอกปื๊ดอย่าสนใจเลย ไม่มีใครทำอะไรตนหรอก แต่ปื๊ดยังสนใจ เดาว่าคุณมาคงคิดถึงคุณนายวัน เหมือนที่ตนกับพ่อผู้ใหญ่ลีคิดถึง จนต้องแอบร้องไห้ไม่ให้ใครเห็น
มาลินี สัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์สะอาดของเด็ก เธอน้ำตาซึมออกมาอีก แล้วดึงปื๊ดเข้ามากอดด้วยความรักและเอ็นดู ขณะเดียวกันที่กรุงเทพฯ ประดิษฐ์หงุดหงิดโมโหที่ติดต่อมาลินีไม่ได้ แต่เพื่อนๆของประดิษฐ์มั่นใจว่ามาลินีไปได้ไม่เกินสองวันเดี๋ยวก็ต้องซม ซานกลับมาตายรัง...
รุ่งขึ้น ลีนวัตรมาที่บ้านคุณนายวันแต่เช้า จัดการให้อาหารหมูและไก่แทนมาลินีที่เขาคิดว่าเธอยังไม่ตื่นนอน ที่ไหนได้ พอได้ยินเสียงเขาบ่น มาลินีกลับเขวี้ยงกระบอกน้ำใส่หัวเขาเต็มๆ จากนั้นทั้งคู่ก็เปิดสภาปะทะคารมกันไปมา ที่สุดลีนวัตรแกล้งเธออีก ฉวยเอาที่ดัดขนตาของเธอมาถอนขนรักแร้หน้าตาเฉย มาลินีโมโหจัดไล่ตีเอาของคืน แต่เกิดพลาดพลั้งล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาที่ทำหน้ากรุ้มกริ่ม
มาลินี รีบดันตัวเองออก แล้วขู่ว่าจะฟ้องผู้ใหญ่ลี ลี�นวัตรเลยยุให้รีบไป ตอนนี้อาจจะยังทัน ก่อนแกจะออกจากบ้านไปซะก่อน พูดไปก็ทำท่าลีลาประกอบอย่างยียวน ทำให้มาลินียิ่งฉุนแต่ทำอะไรไม่ได้ ผลุนผลันออกไปเหยียบลงบนถังน้ำ กว่าจะงัดเท้าออกได้ก็ทุลักทุเลน่าดู เป็นที่ขำขันของลีนวัตร
เมื่อมาลินีไปที่บ้านผู้ใหญ่ลี พวกแม่ปุยกำลังเตรียมทำดอกไม้จันทน์สำหรับงานศพคุณนายวัน มาลินีท้วงว่าทำไม ไม่ซื้อเขา ทำเองเสียเวลา เฉลาบอกว่ามันไม่สวยเหมือนทำเอง แม่ปุยเสริมว่า เสียเวลาไม่กี่มากน้อยหรอก งานคุณนายวันทั้งทียังไงก็ต้องแสดงฝีมือกันให้เต็มที่ มาลินีฟังแล้วรู้สึกละอายใจ เพราะคุณนายวันเป็นยายของเธอแท้ๆ เธอยังไม่คิดจะทำอะไรให้อย่างบ้านนี้เลย
"โถคุณ...ก็คุณเป็นคนกรุงเทพฯ นี่คะ คนกรุงเทพฯน่ะติดนิสัยสะดวกสบาย อะไรก็แลกได้ด้วยเงินทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าคุณไม่รักคุณนายวันซะหน่อย มาสิคะ มาช่วยกัน" แม่ปุย มีเมตตา เฉลากับฉลวยก็ยินดีจะช่วยสอน มาลินีจึงขยับเข้าไปร่วมวงทำดอกไม้จันทน์ ปื๊ดที่ตอนแรกอิดออดไม่อยากช่วย กลัวจะถูกครหาว่าเป็นตุ๊ด แต่พอมาลินีเข้ามา ปื๊ดก็เสนอหน้า เข้ามาทำด้วยความเต็มใจ
นอกจากนี้ มาลินียังได้เรียนรู้ชีวิตชาวชนบทที่เวลามีงานบุญ ชาวบ้านก็จะแสดงน้ำใจช่วยเหลือกันด้วยแรงกายแรงใจ หรือไม่ก็สิ่งของ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เอาเงินใส่ซอง เหมือนคนกรุงเทพฯ มาลินีอยู่ช่วยงานแม่ปุยตั้งแต่สายจนถึงกลางวัน หลังจากแม่ปุยทำอาหารเสร็จ มาลินีก็อาสาเอาไปส่งผู้ใหญ่ลีเอง เพราะเธออยากเจอเขาเต็มแก่แล้ว
มาลินี หิ้วปิ่นโตอาหารออกไปทุ่งนา แล้วเจอนายเหว่าอีกตามเคย แถมนายเหว่ายังทำกร่างคว้าปิ่นโตอาหารของผู้ใหญ่ลีไปกินหน้าตาเฉย มาลินีไม่พอใจอย่างมาก ด่านายเหว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ของเจ้านายแท้ๆยังลักกินขโมยกิน ลีนวัตรหรือนายเหว่าตัวปลอมเลยนึกสนุกแกล้งยียวนกวนโทสะเธอยกใหญ่ จนเธอทนไม่ไหวต้องเดินสะบัดหนีมา
พอมาลินีกลับมาเล่าให้ปื๊ดฟัง ปื๊ดทำหน้างงๆ ก่อนแย้งว่าพี่เหว่าเป็นคนซื่อสัตย์และสุภาพ ไม่น่าจะทำอย่างนั้นได้ มาลินีจึงว่าหน้าไหว้หลังหลอกน่ะสิ แล้วแนะนำปื๊ดให้บอกผู้ใหญ่ลีให้ไล่นายเหว่าออก แต่ปื๊ดไม่เห็นด้วย สงสารพี่เหว่าถ้าโดนไล่ออกแล้วจะเอาอะไรกิน ครั้นฟังมาลินีพูดถึงนายเหว่าในแง่ร้ายหนักขึ้น ปื๊ดก็ถึงบางอ้อว่าที่มาลินีพูดถึงนั้นที่แท้ก็คือผู้ใหญ่ลีพ่อของตนนั่นเอง แต่เด็กชายก็อุบความจริงเอาไว้ เหมือนอย่างที่พวกแม่ปุยตกกระไดพลอยโจนปล่อยเลยตามเลยไปกับลีนวัตร


ooooooo

0 Comments:

Post a Comment



บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

Blogger Template by Blogcrowds