ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 13

มาลินีกับพินตื่นแต่เช้าไปทำบุญที่วัดกับครอบครัวลีนวัตร ทุกคนยิ้มแย้มแช่มชื่นเข้ามานั่งในศาลาปะปนกับชาวบ้านที่มากันไม่น้อย แต่พอต้องเจอปทุมกับผู้ใหญ่โหมด บรรยากาศก็เริ่มกร่อย ปทุมพยายามใกล้ชิดลีนวัตรแสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของข่มมาลินี แต่ที่สุดปทุมก็ต้องฮึดฮัดขัดใจ
ไปเอง เพราะมาลินีนิ่งเฉยทำเหมือนไม่ได้ยิน
ส่วนผู้ใหญ่โหมดนั้นก็จีบแม่ปุยไม่เว้นแม้แต่ในวัด เลยถูกพินดักคอจนเก้อไป เหว่ามากับเขาด้วยเหมือนกัน แต่
เจียม ตัวไม่ยอมขึ้นไปบนศาลา กระทั่งเฉลาต้องลงมาตาม ส่วนประดิษฐ์ที่ตื่นสายตามมาทีหลัง เขาเดินชนกับปทุมที่หงุดหงิดไม่ได้ดังใจมาจากลีนวัตร แล้วต่างคนต่างมองกันอย่างเป็นมิตร แนะนำชื่อแซ่และบ้านช่องกันเสร็จสรรพก่อนแยกกันไป
ประดิษฐ์ลุยเข้ามาตาม มาลินีอย่างไร้มารยาท ทั้งที่พระกำลังจะขึ้นศาลา ลีนวัตรขอร้องให้ประดิษฐ์นั่งลง หรือไม่ก็ลงไปรอข้างล่าง ประดิษฐ์ไม่ฟัง ด่าลีนวัตรและจะทำร้าย จนผู้ใหญ่โหมดต้องเข้ามากำราบด้วยท่าทีนักเลงโต นั่นแหละประดิษฐ์ถึงได้กลับออกไป ส่วนปทุมที่ยืนดูเหตุการณ์ก็เข้ามาดึงพ่อไปต่อว่า ว่าพ่อใจร้อนไม่เข้าเรื่อง กำลังจะได้ดูมวยคู่เอกอยู่แล้วเชียว เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนมาลินี ซึ่งปทุมคิดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีประโยชน์กับเราบ้าง
จากนั้นปทุมรีบออก ไปหาประดิษฐ์ที่ยังหงุดหงิดไม่หายอยู่หน้าศาลา ปทุมต้องการความร่วมมือจากประดิษฐ์เพื่อแยกลีนวัตรกับมาลินีออกจากกัน แล้วเราทั้งคู่ก็จะได้แฟนของตัวเองคืนมา ประดิษฐ์ฟังแล้วยิ้มกริ่ม คิดในใจว่า ถ้าปฏิเสธก็บ้าแล้ว...
เสร็จจากการทำบุญ ผู้ใหญ่โหมดเดินมาเจอทองใบกำลังลูบคลำรถคันโก้ของตนอยู่ พอทองใบอยากมีแบบนี้บ้าง ผู้ใหญ่โหมดบอกไม่ยาก แค่ทองใบเอาที่นามาจำนอง ฝันนั้นก็จะเป็นจริง ทองใบได้ฟังก็ตาเป็นประกาย
มาลินีกลับถึงบ้านพร้อม พิน ทั้งคู่รู้สึกอิ่มบุญพูดคุยกันอย่างมีความสุข แต่แล้วประดิษฐ์ก็เข้ามาทำลายบรรยากาศ เตือนมาลินีด้วยเรื่องลีนวัตรที่มีปทุมเป็นแฟนอยู่แล้ว อีกทั้งเมียเก่ามันเป็นใครก็ไม่รู้ มาทำอะไรน่าจะคิดให้มากกว่านี้ คนอื่นจะได้ไม่ว่าเอาได้ว่าโง่
"ใครจะว่ายังไงก็ช่างเขาเหอะ ฉันไม่ถือ เพราะก่อนหน้านี้ฉันผ่านความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่หลงคบอยู่กับคน อย่างคุณมาแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร"
ประดิษฐ์เจ็บจี๊ด ที่ถูกศอกกลับเข้าเต็มหน้า มองตามมาลินีที่ลุกหนีไปอย่างขุ่นเคืองใจ ขณะเดียวกันนั้น ปทุมก็ตามตอแยลีนวัตรมาถึงหน้าบ้าน พูดจาถึงมาลินีอย่างหยาบคาย หาว่ามาลินีตั้งใจหลอกลีนวัตรทั้งที่มีผัวอยู่แล้วทั้งคน หรือพี่ลี
อยาก จะเป็นชู้กับเมียคนอื่น ลีนวัตรโต้ว่าตนคบกับมาลินีอย่างบริสุทธิ์ใจ แล้วประดิษฐ์กับมาลินีก็เป็นแค่เพื่อนกัน ปทุมยิ้มเยาะ อยากหัวเราะให้ฟันร่วง เป็นแค่เพื่อนแล้วจะมาอยู่บ้านเดียวกันได้ยังไง พี่ลีนี่น่าสงสารจังเลย ทำไมถึงไร้เดียงสาอย่างนี้
"พี่จะคิดยังไงมันก็เรื่องของพี่ ทุมไม่ต้องมาเดือดร้อนแทนพี่หรอก"
"จะ ไม่ให้ทุมเดือดร้อนได้ยังไง ในเมื่อทุมน่ะรักพี่ลี ทุมไม่อยากเห็นพี่ลีกลายเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นหรอก ยัยนั่นน่ะมาอ่อยพี่ลีเพราะแค่เห็นพี่ลีเป็นของแปลกสำหรับเขาก็เท่านั้นเอง คนบ้านนอกอย่างพวกเรา ใครเขาจะมาสนใจจริงจัง นอกจากบริหารเสน่ห์เล่นๆ เพื่อยั่วให้แฟนตัวเองหึง"
ลีนวัตรเดินหนีพยายามไม่สนใจคำพูดลิเกๆของ ปทุม ทั้งที่ความจริงก็รู้สึกบ้างเหมือนกัน ครั้นพบมาลินีในตอนเย็น เขาจึงมีท่าทีเมินเฉยกับเธอ แถมยังพูดแปร่งหูว่า เขาไม่อยากเป็นมือที่สามของใคร...ด้านพินที่ไปตามทวงดอกเบี้ยถึงบ้านทองใบ พินไม่ได้เงินแต่ก็ยิ้มย่องกลับมา เพราะหลงคารมเจ้าชู้ไก่แจ้ของทองใบเข้าอย่างจัง
ตกค่ำ ปื๊ดวิ่งถือสมุดการบ้านที่ครูให้เขียนเรียงความเรื่องครอบครัวของฉันมาให้ มาลินีช่วยอ่าน มาลินีรับมาด้วยความเต็มใจ แต่ประดิษฐ์หมั่นไส้ปื๊ด และกล่าวหาว่าลีนวัตรหลอกใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เท่านั้นยังไม่หนำใจ ประดิษฐ์ใส่เป็นชุดว่าปื๊ดไม่มีแม่ ถามว่าแม่ปื๊ดเป็นใคร อยู่ที่ไหน ตายไปแล้วหรือมีผัวใหม่ หรือว่าจริงๆปื๊ดเป็นเด็กที่เขาเก็บมาจากถังขยะ
มาลินี ตกใจกับคำพูดของประดิษฐ์ ขณะที่ปื๊ดโกรธจ้องประดิษฐ์เขม็ง แล้วคว้าจานข้าวเขวี้ยงหัวประดิษฐ์ อารามตกใจมาลินีจึงดุปื๊ด และให้ปื๊ดขอโทษประดิษฐ์ แต่ปื๊ดปฏิเสธแล้ววิ่งหนีออกไปด้วยความน้อยใจ ส่วนประดิษฐ์ร้องโอดโอยจะเป็นจะตายทั้งที่จานข้าวแค่ถากๆหัวไปเท่านั้น
แม่ ปุยเริ่มเป็นห่วงปื๊ดที่หายไปบ้านมาลินีนานแล้ว จึงวานลีนวัตรไปดูปื๊ดที เมื่อลีนวัตรไปถึง และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลีนวัตรโมโหไม่น้อย จะรีบออกไปตามหาปื๊ด มาลินีขอไปกับลีนวัตรด้วย เพราะเธอเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้ปื๊ดน้อยใจ
สองคนส่องไฟฉายและร้องเรียก ปื๊ดอย่างร้อนใจ ปื๊ดแอบอยู่ในกองฟาง ได้ยินแล้วแต่ไม่ยอมรับปาก ลีนวัตรเห็นกองฟางพะเยิบพะยาบ จึงแกล้งเล่าเรื่องผีกระสือให้มาลินีฟัง เท่านั้นเองปื๊ดก็วิ่งโร่ออกมาโดดเกาะลีนวัตรเป็นตุ๊กแก
ประดิษฐ์หงุด หงิดงุ่นง่านอยู่ที่บ้าน ไม่พอใจที่มาลินีออกไปกับลีนวัตร ทั้งที่ตนเจ็บแทบตายกลับไปสนใจไอ้เด็กนั่นมากกว่า พินหมั่นไส้เลยภาวนาให้ทั้งคู่หาปื๊ดไม่เจอ จะได้อยู่ด้วยกันทั้งคืน สวีทหวานแหววกันให้สาแก่ใจไปข้างหนึ่ง ประดิษฐ์
ได้ยินแล้วโมโหจี๊ด ตะคอกพินเสียงเขียว แต่พินไม่กลัว กลับยิ่งยั่วอารมณ์ประดิษฐ์เข้าไปอีก
"ความจริงคุณหัวแตกนี่ก็ดีเหมือนกันนะคะ ยิ่งทำให้
คุณมากับผู้ใหญ่ลีแกเห็นน้ำใจกันมากขึ้นไปอีก เฮ้อ ค่ำคืนนี้
ทำไมมันช่างอบอวลไปด้วยบรรยากาศของความรักยังงี้นะ" พูดจบพินก็ลอยชายจากไป ทิ้งประดิษฐ์ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว
มาลินี ขอโทษปื๊ดที่เธอเผลอพูดไม่ดี ส่วนปื๊ดก็ขอโทษมาลินีด้วยเหมือนกันที่ทำไม่ดีกับเพื่อนคุณมา แต่เขามาว่าปื๊ดก่อนทำไม ลีนวัตรจึงสอนปื๊ดว่า อย่าโทษคนอื่น ถ้าปื๊ดรู้จักอดกลั้น มันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้
"ถ้าปื๊ดทำเฉยเขาก็หาว่าปื๊ดไม่แน่จริงสิพ่อ"
"คน เราแน่จริงไม่แน่จริงมันอยู่ที่ใจเราเอง ต่อให้เขาเยาะเย้ยถากถางเรามากกว่านี้ ถ้าเอ็งไม่ใส่ใจซะอย่าง เขาก็เหมือนคนบ้าที่พูดพล่ามอยู่ฝ่ายเดียวนั่นแหละ จริงไหมล่ะ"
ปื๊ดพยักหน้าก่อนบอกว่า ปื๊ดก็ไม่แน่จริงอย่างที่เขาพูด พ่อแม่ปื๊ดจริงๆเป็นใครปื๊ดยังไม่รู้เลย ลีนวัตรฟังแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน
"เอ็งมีพ่อคนนี้แล้ว เอ็งยังไม่พอใจอีกเหรอ แม่เขาก็
เป็นห่วง คอยเอ็งอยู่ที่บ้านโน่นอีกคน เอ็งจะเอาแม่ที่ไหนอีก"

มาลินีทั้งรักและสงสารปื๊ด ขอเป็นแม่ของปื๊ดอีกคน ปื๊ดดีใจยิ้มแก้มแทบแตก โผกอดมาลินีพร้อมกับเรียกแม่มา... แต่มาลินีติงขำๆว่า ถ้าเสียงปื๊ดเหน่อมากกว่านี้ กลัวจะเป็นแม่หมา ปื๊ดจึงเรียกใหม่ พยายามไม่ให้เหน่อ...จากนั้นทั้งสามคน เดินจูงมือกันกลับบ้าน แล้วไม่ยอมเล่าเหตุการณ์แย่ๆที่เกิดขึ้นที่บ้านมาลินีให้พวกแม่ปุยที่ตั้งตา คอยฟัง เล่ากันแต่เรื่องดีๆที่ปื๊ดมีมาลินีเป็นแม่เพิ่มอีกคน
ทุกคนเป็น ปลื้ม เฉลาแซวพี่ชายว่ายิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง ปลื้มกว่าปื๊ดเสียอีก ลีนวัตรสุดเขิน ยิ่งมาลินีมองมาเหมือนจะจับผิดด้วยอีกคน ยิ่งไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ที่ตรงไหนใหญ่เลย พอมาลินีขอตัวกลับ แม่ปุยรีบบอกให้ลีนวัตรไปส่ง กำชับมาลินีเดินใกล้ๆผู้ใหญ่ เดือนมันมืด เดี๋ยวจะหกล้มหกลุกไป ฉลวยกับเฉลาหัวเราะคิกคัก มองแม่ปุยอย่างรู้ทัน
ขณะ เดินไปส่งมาลินี ลีนวัตรเล่าเรื่องงานวันแม่ที่โรงเรียนจัดขึ้นทุกปี ทางโรงเรียนจะให้เด็กๆได้กราบแม่ของตัวเอง แต่วันนั้นแม่ของตนงานยุ่งจนลืมว่านัดปื๊ดไว้ กว่าจะนึกได้ก็เกือบเที่ยง แม่วิ่งไปถึงโรงเรียนก็เห็นปื๊ดนั่งร้องไห้อยู่หน้าเสาธง แม่รู้สึกผิดมาก
"แล้วเหตุการณ์จบลงยังไงคะ" มาลินีซัก
"เขา ทำพิธีกราบแม่กันเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้ว ไอ้ปื๊ดมันก็เลยกราบแม่ผมโชว์คนเดียว กลายเป็นคนดังไปทั้งโรงเรียน ยืดได้ไปหลายวันครับ แต่งานวันแม่ปีหน้ามันจะ ยิ่งยืดกว่านี้"
"ทำไมล่ะคะ"
"อ้าว ก็แม่ที่ไอ้ปื๊ดมันจะได้ไปอวดใครต่อใครที่โรงเรียนเป็นแม่มาคนนี้ไงครับ"
"แล้วปื๊ดเขาจะยืดที่ตรงไหนคะ"
"ก็แม่มาของมันสวยที่สุด น่ารักที่สุดในโลก...พ่อไอ้ปื๊ดก็ยืนยันอย่างนั้นด้วยครับ"
เจอ ลูกหยอดหวานๆของลีนวัตร มาลินีถึงสะท้าน เดินนำลิ่วไปด้วยความขัดเขิน ครั้นเดินไปถึงหน้าบ้าน ต่างคนต่างอ้อยอิ่งไม่อยากจะจากกัน มาลินีบอกให้ลีนวัตรกลับ เพราะดึกแล้ว
"ดึกแล้ว...หรือว่าคุณมากลัวใครบางคนในบ้านมาเห็นครับ"
"ฉัน ไม่ปฏิเสธว่าเมื่อก่อนประดิษฐ์เขาเป็นผู้ชายที่ฉันสนิทด้วยที่สุด แต่วันนี้ ตอนนี้ นาทีนี้ เขาก็เป็นได้แค่เพื่อนคนนึงเท่านั้นค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
"รู้อย่างนี้ผมจะได้สบายใจ เลิกกังวลใจซะที อย่างน้อยถ้าคุณมาไม่ได้มองว่าผมต่ำต้อยกว่าเขา ผมก็สบายใจแล้วล่ะครับ"
มาลินี อยากบอกว่าลีนวัตรเหนือกว่าประดิษฐ์หลายขุมจนเทียบไม่ได้ จู่ๆมาลินีนึกได้ว่าปื๊ดลืมสมุดการบ้านเอาไว้ จึงให้เขารอก่อน เธอจะเข้าไปเอามาให้ ลีนวัตรคว้าแขนมาลินีไว้ ประดิษฐ์โผล่ออกมาเห็นพอดี ด่าว่าลีนวัตรอย่างหึงหวง แต่ทั้งลีนวัตรและมาลินีไม่สนใจ มาลินีผละเข้าไปหยิบสมุดการบ้านของปื๊ดเหมือนประดิษฐ์ไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น ประดิษฐ์ ยิ่งยัวะ พาลด่าลีนวัตรไม่ยั้ง
"ลื้อมันก็แค่ไอ้บ้านนอก เรียนหนังสืออย่างเก่งอั๊วว่าก็แค่ ม.6 ม.3 นั่นล่ะวะ ทางที่ดีอั๊วว่าอย่าสะเออะมาจีบมาเขาดีกว่า เพราะสุดท้ายลื้อมันก็เป็นได้แค่หมาเห็นเครื่องบินนั่นละวะ รู้จักมั้ยวะ หมาเห็นเครื่องบินน่ะ...เฮ้ย ลื้อฟังอั๊ว อยู่หรือเปล่าวะ"
ลีนวัตรเฉย ตลอด มาลินีถือสมุดการบ้านของปื๊ดกลับออกมาส่งให้ลีนวัตร เสร็จแล้วสองคนก็หันหลังแยกกัน ไม่สนใจประดิษฐ์ ประดิษฐ์โกรธควันออกหู ตามติดมาลินีเข้ามาต่อว่าต่อขาน
"มาทำกับดิ๊กเหมือนไม่เห็นหัวดิ๊กยังงี้ได้ยังไง"
"ฉันจะเข้าห้องฉันแล้ว คุณก็ควรจะกลับไปที่พักของคุณเหมือนกัน"
"มาทำร้ายจิตใจดิ๊กมากเกินไปแล้ว ไอ้บ้านั่นมันมีดีกว่าดิ๊กที่ตรงไหน"
"เรา จะไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว อย่าหาว่าฉันเสียมารยาทหรือหยาบคายเลยนะคะ ถ้าคุณไม่อยากเห็นคุณก็กลับกรุงเทพฯไปซะ ฉันจะถือว่าคุณเป็นแขกมาพักผ่อนตากอากาศเท่านั้น"
"ดิ๊กจะไม่มีวันไปไหนทั้งนั้น"
"ถ้า อย่างนั้นเราก็คงต้องคุยกันใหม่แล้ว ถ้าคุณคิดจะอยู่ที่นี่ คุณก็อยู่เฉยๆไปวันๆไม่ได้ เพราะทุกคนเขาทำงานกันหมด คุณควรจะรู้จักละอายใจนะคะ ข้าวทุกเม็ด อาหารทุกมื้อ มันมาจากการทำงานทั้งนั้น ที่นี่ไม่มีใครกินขนมปังค่ะ" มาลินีตอกกลับประดิษฐ์อย่างนุ่มนวล ก่อนจะเดินขึ้นข้างบนไป ประดิษฐ์ มองตามตาขวาง ขัดใจ
ลีนวัตรกลับไปนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่บ้านของตน สบายใจที่มาลินียืนยันว่าเธอกับประดิษฐ์เป็นแค่เพื่อนกัน แม่ปุยเดินออกมาเห็นสีหน้าลูกชายก็อดล้อไม่ได้ว่า ท่าทางผู้ใหญ่จะดีใจซะยิ่งกว่าไอ้ปื๊ด
"โธ่...แม่ก็ เขาก็แค่สงสารไอ้ปื๊ดมัน เพราะเห็นว่าพ่อแม่มันไม่มีเท่านั้นแหละ"
"แม่ว่าคุณนายวันแกคงจะดีใจนะ ถ้ารู้ว่าผู้ใหญ่กับหลานสาวแกเข้าอกเข้าใจกันดีอย่างนี้"
"วันข้างหน้ามันจะเป็นยังไง เราไม่มีทางรู้ได้หรอกแม่"
"แม่ว่าคุณมาแกฉลาดพอที่จะมองคนให้เห็นเข้าไปถึงหัวจิตหัวใจมากกว่าจะมองแค่ข้างนอก ผู้ใหญ่เป็นคนคิดดีทำดีจะต้องไปกลัวอะไร"
"หนู จะพยายามคิดให้ได้อย่างนั้นจ้ะแม่ หนูจะไม่ หวั่นไหวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้หนูรู้สึกดีต่อคุณมายังไง หนูจะไม่ยอมให้มีอะไรมาทำลายความรู้สึกดีๆนั้นได้จ้ะแม่"
ooooooo
ตอนที่ 14
เช้า วันใหม่ มาลินีออกไปกลางทุ่งนา เห็นครอบครัวลีนวัตรกำลังช่วยกันทำหุ่นไล่กา กันนกกา มากินข้าวที่ออกรวงเหลืองอร่าม มาลินีเห็นแล้วนึกสนุก ช่วยพวกเขาทำ ซึ่งแต่ละคนก็ออกแบบหุ่นไล่กาต่างกันไปคนละแบบสองแบบ เป็นที่สนุกสนานเฮฮา ชอบใจในผลงานของตนเอง
ประดิษฐ์เบื่ออยู่บ้าน ขับรถออกไปตลาด แล้วไปเจอปทุมที่เพิ่งออกจากร้านทำผมแถวนี้มาหยกๆ แต่ดันคุยอวดประดิษฐ์ว่าเธอเพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ ไปสระผมที่ร้านประจำมา เธอสระผมร้านธรรมดาแถวนี้ไม่ได้ ประดิษฐ์เองก็ใส่หน้ากาก อวดร่ำอวดรวยว่ารถที่ขับมาราคาหกล้าน ซื้อเงินสด เอาไว้ใช้งานสมบุกสมบัน ขับออกต่างจังหวัด
คุยกันไม่นาน ปทุมก็พาประดิษฐ์ไปที่ร้าน...ลูกสาวว่าขี้โอ่แล้ว ตัวพ่อยิ่งกว่า ผู้ใหญ่โหมดคุยน้ำไหลไฟดับเรื่องการค้าที่ ขายได้วันละสี่ห้าล้าน ประดิษฐ์หูตาพองก๋า เรียกผู้ใหญ่ โหมดว่าพ่อเต็มปากเต็มคำ จากนั้นสามคนก็รวมหัวกันวางแผนแยกลีนวัตรกับมาลินีออกจากกัน โดยปทุมเสนอให้จ้างคนไปดักรุมตบมาลินีแล้วก็สาดน้ำกรดซ้ำให้เสียโฉม ขณะที่ประดิษฐ์ก็จะส่งคนไปดักตีหัวแล้วรุมกระทืบผู้ใหญ่ลี เอาให้ ขาเป๋นิดหน่อย แต่คิดไปคิดมาต่างก็ร้องลั่นว่าทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่ยอมให้แฟนของตนเป็นอันตราย ผู้ใหญ่โหมดจึงสรุปว่า ถ้ายังทำอะไรไม่ได้ถนัดตอนนี้ก็ขวางๆมันไปพลางๆก่อน แต่ถ้างานนี้สำเร็จ นอกจากประดิษฐ์จะได้แฟนคืนแล้ว ตนจะแถมรางวัลเป็นโบนัสให้เขาด้วยอย่างงาม
เย็น นี้เอง เหว่ามัดกิ่งมะขามที่ริดใบออกหมดแล้วใส่ถังเพื่อทำต้นกฐินถวายวัด เฉลาช่วยอยู่ด้วยใกล้ๆ สองคนถือโอกาสกุ๊กกิ๊กกันประสาคนรัก...ขณะเดียวกันนี้ จู่ๆวลัยกับสมรโผล่มาที่บ้านมาลินี สองสาวบอกมาลินีว่ากำลังเซ็งชีวิต สมรเบื่องานแอร์โฮสเตสที่ทำอยู่ พอเศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็มีกฎระเบียบหยุมหยิม โบนัสงวดนี้ก็ไม่ได้ ส่วนวลัยก็ถูกเพื่อนที่หุ้นทำร้านกาแฟด้วยกันโกงหน้าด้านๆ ตอนนี้เลยตกงาน ทั้งคู่อยากมาพักผ่อนชั่วคราวหรืออาจจะถาวรเลยก็ได้
ประดิษฐ์ขับรถกลับ บ้านมาลินี ระหว่างทางเจอฉลวยขี่จักรยานล้มเข่าแตก ประดิษฐ์จำได้ว่าเธอเป็นน้องสาวผู้ใหญ่ลี จึงทำเป็นคนดีมีน้ำใจอาสาพาไปส่งถึงบ้าน ระหว่างทางก็คุยอวดฉลวยว่าตนเป็นผู้ชักนำนางแบบหลายคนที่ดังอยู่เวลานี้เข้า วงการ ฉลวยชื่นชอบวงการนี้อยู่แล้ว จึงออกอาการตื่นเต้นซักถามไม่หยุด ประดิษฐ์จับสังเกต แล้วเอ่ยชมฉลวยขาสวย โครงหน้าเก๋ ถ่ายรูปขึ้นอย่าบอกใคร ฉลวยฟังแล้วฉีกยิ้มกว้าง ความฝันบรรเจิด แต่พอลับหลัง ฉลวยหารู้ไม่ว่า ประดิษฐ์ก็แอบด่าฉลวยว่าทุเรศ อีบ้านนอก...
วลัยกับสมรกำลังซักถามถึง ความสัมพันธ์ของมาลินีกับผู้ใหญ่ลี ถามไปก็แซวไปจนมาลินีเขินอาย ทั้งคู่เลยยิ่งหยอกล้อ ประดิษฐ์กลับมาเจอก็หงุดหงิด ขุ่นเคืองใจที่มาลินีไม่แยแสตนเลย
ค่ำนั้นมาลินีชวนเพื่อนทั้งสองไปช่วย ครอบครัวลีนวัตรจัดข้าวของทำบุญ และใช้แบงก์พับนกติดต้นกฐินเพื่อถวายพระเช้าพรุ่งนี้ ทุกคนสนุกสนานรุมช่วยกันแขวนตกแต่งต้นกฐิน พอลีนวัตรมีโอกาสใกล้ชิดมาลินี วลัยกับสมรก็แซวซะทั้งคู่ จนเขินอายไปด้วยกัน เสร็จแล้วลีนวัตรเดินไปส่งสาวๆ วลัยกับสมรยังสนุกไม่เลิก แกล้งแหย่ลีนวัตรอีก เพราะชอบใจท่าทีเขินอายของเขา จนมาลินีต้องปรามเพื่อนๆ
รุ่ง เช้า หน้าวัดมีขบวนกลองยาวของผู้ใหญ่โหมดร้องรำทำเพลงกันเอิกเกริก ผู้ใหญ่โหมดนำต้นกฐินใส่ท้ายรถกระบะที่ตกแต่งอลังการ แล้วพ่อลูกนั่งประกบ ทำตัวเป็นดาวเด่นโบกมือให้ชาวบ้านที่ยืนดูกันสลอน วลัยกับสมรเห็นแล้วยังว่า นี่แหละเศรษฐีตัวจริง ต้นกฐินติดแต่แบงก์พัน ปื๊ดเองก็เข้าใจประสาเด็กว่า ติดเงินมากคงได้บุญมาก ลีนวัตรจึงสอนปื๊ดว่า บุญน่ะได้มากได้น้อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงิน มันอยู่ที่ใจ ถ้าปื๊ดทำบุญสิบบาท อาจได้บุญมากกว่าทำเป็นร้อยบาท ถ้าปื๊ดตั้งใจทำบุญจริงๆ

0 Comments:

Post a Comment



บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

Blogger Template by Blogcrowds